ปิดฉากคดีสารตะกั่วปนเปื้อนลำห้วยคลิตี้ ศาลฎีกาให้ชดใช้ชาวบ้าน 36 ล้านบาท

กาญจนบุรี 11 ก.ย.-หลังสู้คดีนานเกือบ 20 ปี ในที่สุดวันนี้ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ และผู้บริหารรวม 7 คน จ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้าน 151 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยสารตะกั่วลงลำห้วยคลิตี้ กว่า 36 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันฟ้อง พร้อมให้เร่งฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้



ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบ้านคลิตี้ล่างที่ได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนของสารตะกั่วในลำห้วยคลิตี้ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ยิ้มได้อีกครั้ง เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลย คือ บริษัท ตะกั่วคอนเซนเตรทส์ (ประเทศไทย) พร้อมพวกรวม 7 คน ชดใช้ค่าเสียหาย ให้ชาวบ้าน 151 คน รวมเป็นเงิน 36,050,000 บาท และให้ฟื้นฟูลำห้วยกลับคืนมาดังเดิม



เป็นเวลากว่า 19 ปี ที่ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่กับแหล่งน้ำที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนเกินมาตรฐาน แม้จะทราบดีว่าเป็นแหล่งน้ำติดเชื้ออันตรายตั้งแต่ปี 41 เนื่องจากพบชาวบ้านคลิตี้ล่างหลายรายล้มป่วยและเสียชีวิตปริศนา แพทย์และกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันพบสารตะกั่วในเลือดของชาวบ้านสูงกว่ามาตรฐาน โดยมีสาเหตุมาจากโรงแต่งแร่ปล่อยน้ำเสีย และตะกอนแต่งแร่ลงลำห้วยที่เป็นดั่งเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิต เพราะใช้ทั้งอุปโภคบริโภคมาตั้งแต่บรรพบุรุษ


ตุลาคม ปี 2550 ชาวบ้านที่ได้รับพิษจากสารตะกั่ว 151 คน ยื่นฟ้องบริษัทต้นเหตุ เรียกค่าเสียหายกว่า 1,042 ล้านบาท และขอให้ฟื้นฟูขจัดมลพิษในลำห้วย ธันวาคม ปี 2553 ศาลจังหวัดกาญจนบุรีให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 36,050,000 บาท และให้ขจัดมลพิษให้หมดสิ้นไป จำเลยยื่นอุทธรณ์ กุมภาพันธ์ ปี 2555 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 แผนกคดีสิ่งแวดล้อม พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ส่วนเรื่องการฟื้นฟูลำห้วย ศาลเห็นว่าเป็นอำนาจของกรมควบคุมมลพิษที่จะบังคับตามกฎหมายให้ผู้ก่อมลพิษดำเนินการฟื้นฟู จำเลยยื่นฎีกา ซึ่งล่าสุดวันนี้คดีเป็นอันสิ้นสุด เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 36,050,000 บาท และให้จำเลยแก้ไขฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ให้กลับคืนมาดังเดิม

คดีนี้มีการต่อสู้ถึง 3 ศาล ท้ายที่สุดแม้ว่าชาวบ้านจะเป็นผู้ชนะคดีและได้รับเงินเยียวยาตามสมควร แต่การที่ต้องทนอยู่กับสายน้ำติดเชื้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มายาวนานถึง 19 ปี ต้องเจ็บป่วยจากสารตะกั่วในร่างกาย รวมถึงการสูญเสียคนในครอบครัวอันเป็นที่รักก่อนเวลาอันควรนั้น กลับไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนได้ และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากกว่าเงินเยียวยา คือ การเร่งฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ให้กลับมาเป็นสายน้ำปลอดเชื้ออีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก