fbpx

“พี่ชาย-ทนายษิทรา” พบตำรวจให้ข้อมูลเพิ่มพรุ่งนี้  

กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – ทนายษิทราและพี่ชายแตงโม จ่อพบตำรวจพรุ่งนี้ มอบหลักฐานสำคัญในคดีเพิ่มเติม พร้อมให้ข้อมูลเรื่อง “พล.ต.ต.น” ขายข้อมูลสืบสวนสอบสวนคดีแตงโมให้บุคคลภายนอก


นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยว่า บุคคลสำคัญที่มาปรึกษาในคดี คือ นายดายศ เดชจบ พี่ชายของแตงโม จากการพูดคุยเบื้องต้นพี่ชายแตงโม พอรู้เรื่องสำคัญอะไรมาบ้างแล้ว  โดยสื่อน่าจะเป็นผู้ถามนายดายศเองจะดีที่สุด ยืนยันไม่ได้รับเป็นทนายความให้กับพี่ชายแตงโม โดยได้มีการปรึกษาพูดคุยกัน เพราะพี่ชายของแตงโมและผมมีความคิดเห็นตรงกันในการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่จำเป็นต้องขออนุญาตแม่ เพราะเป็นการทำเพื่อแตงโม ไม่ได้ทำเพื่อแม่ ซึ่งในฐานะพี่ชายก็มีสิทธิสงสัยในสาเหตุการตายได้ และขณะนี้พี่แตงโมยังมีความสงสัยคดีในทุกมิติ เช่น คำให้การของคนบนเรือ สภาพบาดแผล จุดตกเรือ รวมถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) เวลา 09.00 น. ตนและพี่ชายแตงโมจะไปพบตำรวจ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งจะมีการสอบถามความคืบหน้าทางคดี มอบประเด็นข้อสงสัยที่ยังติดใจให้ตำรวจนำไปสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงจะมอบพยานหลักฐานสำคัญให้กับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน

สำหรับกรณีที่โพสต์ในเพจส่วนตัว ว่า มี พล.ต.ต.น. เอาสำนวนความลับการสืบสวนสอบสวนในคดีแตงโมไปเปิดเผยกับบุคคลภายนอก เพื่อใช้ประโยชน์ โดยอาจไปให้กับผู้ต้องหา จึงต้องออกมาปรามไว้ก่อนและคงต้องขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วย และอาจมีการไปยื่นเรื่องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยตนเอง ทั้งนี้ หากมีการนำข้อมูลในสำนวนคดีแตงโมไปขายให้บุคคลภายนอกจริงอย่างที่ได้พูดไว้ ก็คงต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีหลักฐานคือการมีคนออกมาพูดเรื่องสำนวนการสอบสวน โดยทำเป็นขบวนการ โดยมีพลตำรวจตรี น.เอาข้อมูลความลับออกมาให้กับบุคคลคนนึงแล้วออกมาตีคดี มีคีย์เวิร์ดสำคัญ เช่น ให้มาคุยกับผม เมื่อผู้ต้องหาติดดต่อไปก็มีการขายสำนวนการสอบสวนให้ เพื่อให้รู่ว่าจะถูกดำเนินคดีอะไร เป็นขบวนการซื้อขายสำนวนสอบสวนเพื่อนำมาเผยแพร่ และข่มขู่ผู้ต้องหาเพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้โทรมาสอบถาม โดยมีการนัดหมาย เพื่อให้ปากคำประเด็นดังกล่าวแล้ว ในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 


ส่วนข้อมูลประเด็นว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโมมีพฤติการณ์หยอดยา ซึ่งเป็นข้อมูลจากกลุ่มเพื่อน พี่ออกมาแฉพฤติกรรมสมัยเป็นหนุ่มของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโม ซึ่งคงต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากวัตถุพยานโดยเฉพาะขวดไวน์และแก้วไวน์ในคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน