กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.- “รังสิมันต์ โรม” ให้ข้อมูล “พล.ต.อ.วิสนุ” เพิ่มเติม กรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบสารวัตรสอบสวน สน.พญาไท ผู้ออกหมายจับ “ส.ว.คนดัง” ก่อนเพิกถอนเป็นหมายเรียก เชื่อเจ้าตัวถูกแทรกแซงในคดี
สืบเนื่องจากกรณีก่อนหน้านี้ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 ก.พ.66 นายรังสิมันต์ อภิปรายในหัวข้อ “เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา” มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต เป็นเหตุให้เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคดีนี้ศาลอนุญาตให้เลื่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องใหม่เป็นวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ตามวันว่างของคู่ความนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่สำนักงานจเรตำรวจ ถ.รามอินทรา กรุงเทพฯ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และในฐานะว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าพบ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีการแทรกแซงการทำคดี ส.ว.คนดัง และการโยกย้ายไม่เป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดี รวมถึงนำข้อมูลและมาให้การเพิ่มเติมคดีที่ยื่นเรื่องร้องเรียนกรณีที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สน.พญาไท ออกหมายจับและให้เพิกถอนหมายจับนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ปัจจุบันคดีนี้นายอุปกิต ถูกดำเนินคดีฟอกเงินไปแล้ว แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีสมคบกันค้ายาเสพติด ซึ่งอัยการจะนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 26 ก.ค.นี้ แต่ตนเห็นว่าล่าช้าเกินไป อัยการควรจะแจ้งข้อกล่าวหานี้ไปก่อน ไม่ต้องรอถึงวันสั่งฟ้องคดี นอกจากนี้ ยังเห็นว่าคดีนี้มีความพยายามแทรกแซงคดีอย่างชัดเจน เพราะ พ.ต.ท.มานะพงษ์ ถูกสั่งให้ไปเพิกถอนหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ให้หลักฐานกับจเรตำรวจแห่งชาติ ไปร่วมตรวสอบแล้ว และวันนี้ก็จะส่งให้ตรวจสอบเพิ่มเติม
ขณะที่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การสืบสวนก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และมีการเรียก พ.ต.ท.มานะพงษ์ มาสอบสวนเรียบร้อย ส่วนวันนี้ก็จะนำข้อมูลของนายรังสิมันต์ ไปเพิ่มเติมในเรื่องการสอบสวนให้ครบถ้วน ก่อนจะสรุปว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง.-สำนักข่าวไทย