อดีตนักมวยสาวแจ้งความหนุ่มราดน้ำใส่หัว-คู่กรณีไหว้ขอโทษ

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.-“แพรพลอย” อดีตนักมวยสาว แจ้งความถูกหนุ่มราดน้ำใส่หัวในร้านข้าวต้ม หลังปฏิเสธชนแก้วด้วย จนมีปากเสียงกัน และเตะคู่กรณีไป 1 ที ด้านคู่กรณียกมือไหว้ขอโทษ ตำรวจปรับทั้งคู่คนละ 1,000 บาท


สืบเนื่องจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2” โพสต์คลิปวิดีโอเรื่องราวหญิงสาวรายหนึ่ง ทราบชื่อ น.ส.แพรพลอย แซ่เอี้ย หรือ “แพรพลอย ม.กรุงเทพธนบุรี” ฉายา “เพชรพลอย ขวาท่อนซุง” ถูกชายที่ไม่รู้จักราดน้ำใส่หัว หลังจากปฏิเสธที่จะชนแก้วกับชายคนดังกล่าว จนมีปากเสียงทะเลาะกัน เหตุเกิดที่ร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ที่ สน.ห้วยขวาง น.ส.แพรพลอย พร้อมพี่ชายและครูมวย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ก่อนเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


น.ส.แพรพลอย เปิดเผยว่า วันนี้ที่มาแจ้งความ เพราะต้องการจะถามว่าทำไปเพื่ออะไร และต้องการคลิปจากกล้องวงจรปิดของร้านอาหารที่บันทึกภาพขณะตนถูกคู่กรณีราดน้ำใส่ ตนมองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรทำกับผู้หญิง หากตนไม่ต้องการชนแก้ว ก็ไม่มีสิทธิมาทำเช่นนี้ ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้ตนรู้สึกอับอาย ส่วนตัวไม่รู้จักกับคู่กรณีแต่อย่างใด กลุ่มคู่กรณีได้พูดคุกคามตนตั้งแต่ตอนที่ตนเดินเข้าร้าน ในทำนองว่า “มานั่งตรงนี้มั้ย” ซึ่งตนก็มองกลับไปด้วยสายตาไม่พอใจ เมื่อตนเข้ามานั่งที่ร้าน คู่กรณีก็ยังมาขอชนแก้ว แต่ตนปฏิเสธไป และบอกว่าจะกินข้าว ซึ่งตนคิดว่าคู่กรณีน่าจะรู้สึกอับอาย เนื่องจากมีคนในร้านเยอะ ขณะที่คู่กรณีกำลังจะเดินทางกลับ ก็เดินมาราดน้ำใส่หัวตนช้าๆ โดยไม่พูดอะไร แต่ทำสีหน้าเยาะเย้ย ขณะนั้นตนมีอาการเมาเช่นกัน จึงหยิบแก้วน้ำและกล่องทิชชูปาใส่ แต่ไม่โดน จึงเข้าไปถามว่าทำไปเพื่ออะไร แต่คู่กรณีกลับยิ้มเยาะ ตนจึงเตะไป 1 ครั้ง แต่คู่กรณีก็ไม่มีท่าทีสำนึก

น.ส.แพรพลอย กล่าวอีกว่า ต่อให้วันนี้คู่กรณีขอโทษ หรือก้มกราบ ตนก็ไม่ให้อภัย และไม่ลบคลิปโดยเด็ดขาด จะปล่อยให้คลิปนี้ประจานพฤติกรรมคู่กรณีว่า ต่อไปอย่าทำพฤติกรรมแบบนี้ ส่วนตัวไม่ต้องการดำเนินคดีกับคู่กรณี เพียงแต่ตนต้องการคลิปที่ถูกคู่กรณีราดน้ำใส่ตน แต่ร้านบอกให้ตนแจ้งความ จึงจะได้คลิปดังกล่าว เพราะตนต้องการประจานให้คู่กรณีไม่มีที่ยืนในสังคม

น.ส.แพรพลอย ยืนยันว่า เมื่อคืนนี้ที่ตนตอบโต้ด้วยพฤติกรรมที่รุนแรงนั้น ตนทำไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้หญิง หากผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นนักมวยเช่นตน ให้สังคมลองนึกภาพดูว่าจะเป็นอย่างไร หากมีคนบอกว่าตนแต่งตัวแรง ตนมองว่าเป็นสิทธิของผู้หญิง ส่วนผู้ชายควรเก็บอารมณ์ของตน หากเมาก็ไม่ควรทำแบบนี้


ขณะที่ สุขเกษม จีจีพี เรือใบไข่มุก นักมวยอาชีพ เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อมาพบคู่กรณี กล่าวว่า น้องเลิกเป็นนักมวยไปนานแล้ว ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ วันนี้มาเป็นเพื่อนน้อง โดยมากับหัวหน้าค่าย 2 คน ปกติแล้วน้องไม่ใช่คนใจร้อน แต่เป็นคนร่าเริง ตั้งใจซ้อมมวย ซ้อมมวยมาตั้งแต่อายุ 13-14 ปี แต่หยุดมาหลายปีแล้ว ส่วนตัวมองว่า คู่กรณีน่าจะเสียหน้าที่น้องสาวไม่ยอมชนแก้วด้วย จึงก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนมองไม่ควรทำแบบนี้ ทั้งนี้ ตนแค่อยากมาพบคู่กรณี ไม่ได้อยากจะท้าต่อยตีแต่อย่างใด

ด้านพนักงานสอบสวนสอบปากคำ น.ส.แพรพลอย โดยมีคู่กรณีเดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อพบไกล่เกลี่ยและยกมือขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเข้ามารอที่บริเวณชั้น 2 ของสถานีตำรวจ เมื่อพบหน้ากัน คู่กรณียกมือไหว้ขอโทษ น.ส.แพรพลอย ก่อนตำรวจจะสอบปากคำทั้งคู่เกือบครึ่งชั่วโมง พร้อมแจ้งข้อหาฝ่ายชาย ฐานทำสิ่งสกปรกเปรอะเปื้อนและทะเลาะวิวาท ส่วนฝ่ายหญิงถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นและทะเลาะวิวาท ปรับคนละ 1,000 บาท ซึ่ง น.ส.แพรพลอย กล่าวสั้นๆ เพียงว่า ตอนนี้รู้สึกโอเค ไม่ติดใจอะไรแล้ว ขณะที่พนักงานสอบสวนขอให้ทั้งสองฝ่ายเลิกแล้วต่อกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]