กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – แฉกลโกงบริษัทปิดภาระหนี้ย่าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลอกให้กู้ซื้อคอนโดฯ จนเป็นหนี้ 16 ล้านบาท คาดมีผู้เสียหายอีกหลายราย ความเสียหายคาดว่าหลายร้อยล้านบาท
อุทาหรณ์สำหรับคนที่มีภาระหนี้สิน แต่อาจจะเลือกใช้บริการ บริษัทปิดภาระหนี้สินมาช่วย อาจถูกมิจฉาชีพแฝงตัวหลอกเช่นสามีภรรยาคู่นี้ จากที่เป็นหนี้ 4 ล้าน กลายเป็น 16 ล้าน ได้อย่างไร ไปดู
น.ส.ศรีวันลา อายุ 40 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีตนเองและสามีถูกบริษัทปิดภาระหนี้สินชื่อดังย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลอกลวงให้กู้ซื้อคอนโดฯ จนเป็นหนี้สินกว่า 15 ล้านบาท คาดมีผู้เสียหายอีกหลายราย ความเสียหายคาดว่าหลายร้อยล้านบาท
น.ส.ศรีวันลา กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางปี 2564 สามีของตนซึ่งทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ มีรายได้ประมาณเดือนละ 40,000 บาท ขณะนั้นสามีมีหนี้สินบัตรเครดิตและหนี้ผ่อนรถยนต์ รวมประมาณ 430,000 บาท ต่อมามีบริษัทปิดภาระหนี้สินแห่งหนึ่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โทรศัพท์ติดต่อสามีของตน โดยไม่ทราบว่าเอาเบอร์มาจากที่ไหน ตอนแรกบริษัทดังกล่าวอ้างว่าเป็นหน่วยงานราชการ ต้องการช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด โดยจะทำการปิดภาระหนี้สินให้ประชาชนเดือนละ 10 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสามีของต้น เบื้องต้นปลายสายเสนอว่าจะปิดภาระหนี้สินให้ทั้งหมด โดยนำมาคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่เพียง 3% ต่อปี ซึ่งถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต และอัตราดอกเบี้ยของบริษัทไฟแนนซ์หลายเท่า สามีตนจึงสนใจและเดินทางไปยังสำนักงานปิดภาระหนี้สินที่ตั้งอยู่ใน อ.ลำลูกกา ตามที่นัดหมาย พนักงานบริษัทดังกล่าวได้เสนอปิดหนี้สินให้กับสามีของตน ตนและสามีจึงตกลงให้รวมยอดหนี้และให้บริษัทปิดหนี้สินให้ทั้ง 2 ยอด โดยบริษัทให้สามีตนตีเช็คให้ 3 ฉบับ เพื่อเป็นการค้ำประกัน ระหว่างดำเนินการปิดยอดหนี้ ทางบริษัทได้ชักจูงให้สามีของตนเข้าร่วมโครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ บอกว่าถ้าเข้าร่วมโครงการบริษัทจะยกหนี้สินให้ทั้งหมดภายใน 1-2 ปี ที่สำคัญทางบริษัทบอกว่า ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว จึงตกลงเซ็นสัญญาและส่งเอกสารให้กับทางบริษัท แต่กลับพบว่าเป็นการหลอกให้ลุงทุนซื้อคอนโดฯ ทำให้ตอนนี้สามีเป็นหนี้กับธนาคารกว่า 16 ล้านบาท โดยต้องหาเงินมาผ่อนชำระหนี้กับธนาคารเดือนละเกือบ 80,000 บาท
ตนเองและสามีเห็นว่าพฤติกรรมของบริษัทอาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ตนจึงตัดสินใจพาสามีเข้าแจ้งความและไปพูดคุยกับธนาคาร และไปตรวจสอบที่คอนโดฯ ที่ตนได้ทำสัญญากู้ซื้อไว้ จึงทราบจากนิติของคอนโดฯ ว่าบริษัทแห่งนี้มาติดต่อขอซื้อคอนโดฯ หลายห้อง แต่ไม่เคยเห็นเจ้าของห้องมาเลย ตนและสามีจึงเชื่อว่าน่าจะมีเหยื่อถูกหลอกแบบนี้อีกมาก จึงเดินทางมาขอให้นายเอกภพช่วยติดตามคดี
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้น่าสนใจมาก หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ น.ส.ศรีวันลา ผู้เสียหาย กล่าวอ้าง เรื่องนี้อาจจะเป็นกลโกงในอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังจะระบาดหลอกคนไทยต่อไปในอนาคตก็เป็นได้ จึงเตรียมประสานว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพาผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อไป.-สำนักข่าวไทย