บชน. 10 ม.ค.- แจ้งข้อหาเสพยาเพิ่มอดีตหน.รปภ. ไม่พบนิติบุคคลคอนโด บริษัทรปภ. เข้าข่ายความผิดประวิงเวลา-ช่วยหลบหนี
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่ นายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุ 41 ปี อดีตหัวหน้า รปภ.ที่ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวลูกบ้านคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรีว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ได้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา กับนายมนตรี ในความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) หลังผลตรวจสอบพบยาบ้าในร่างกาย รวมเป็น 3 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น /บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
ส่วนการตรวจสอบนิติบุคคล และ รปภ.ของคอนโดมิเนียม ว่าในวันเกิดเหตุเข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานหรือไม่นั้น ปรากฏว่าไม่พบพฤติการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด จึงไม่ดำเนินคดีในข้อหาขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าพนักงาน เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุ นิติบุคคลไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ส่วน รปภ. ก็ทำตามกฎระเบียบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากในตอนแรกไม่มีเจ้าพนักงานเข้าไป มีเพียงญาติของผู้เสียหายเท่านั้น แต่เมื่อมีเจ้าพนักงานเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทาง รปภ. ก็อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี จึงไม่เข้าข่ายความผิดแต่อย่างใด
สำหรับการออกใบอนุญาต ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยแก่นายมนตรี อยู่ระหว่างตรวจสอบ การอนุญาตให้ใบประกอบอาชีพว่ามีการบกพร่องในส่วนใดอย่างไรหรือไม่ ซึ่งเอกสารมีจำนวนมากจึงขอเวลาตรวจสอบก่อน ส่วนขั้นตอนการออกใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้น ทางบริษัทรักษาความปลอดภัยจะต้องนำหลักฐานของผู้สมัครยื่นเรื่องขอประวัติที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อนำมาประกอบการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจาก ฝ่ายอำนวยการ 5 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงต้องตรวจสอบว่ามาจากความผิดพลาดหรือบกพร่องจากในส่วนของบริษัทรักษาความปลอดภัย หรือ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาลกันแน่