กทม. 19 ธ.ค.- รถพ่วง 22 ล้อ ตกร่องกลางถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าพระราม2 เสียหลักท้ายสะบัดเบียดเก๋งเข้ากับแบริเออร์ พังยับ บาดเจ็บ 3 ราย โชเฟอร์วิ่งขึ้นแท็กซี่หลบหนี
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 19 ธ.ค.64 ร.ต.อ.สรายุทธ์ สันทัด รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนกาญจนาภิเษก ในช่องทางด่วน หน้าห้างแม็คโคร บางบอน ถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าพระราม2 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน ในช่องทางขวาสุดพบรถเก๋ง มิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กด2079 สมุทรสาคร สภาพพังยับทั้งคัน เศษอะไหล่กระจายเกลื่อนถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ปรางค์ทิพย์ อายุ 32 ปี คนขับ มีบาดแผลถลอกตามตัว น.ส.อลิสา อายุ 25 ปี ศีรษะแตก และถลอกตามลำตัว ด.ญ.นิรดา อายุ 2 ปี อาการสาหัส ข้อมือซ้ายหวิดขาด เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบางประกอก 8 ห่างไป 500 เมตร บริเวณใต้ทางต่างระดับเอกชัย เลนซ้าย พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หัวลาก ยี่ห้อ ฮิโน่ สีขาว ทะเบียน 70-9753 นนทบุรี หางลาก ทะเบียน 70-9163 นนทบุรี ส่วนโชเฟอร์หลบหนีไปแล้ว
จากการสอบสวนนายสุภาพ อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่าขับรถตามรถเก๋งคันดังกล่าวมาในช่องทางขวาได้สักพัก ส่วนรถพ่วง 22 ล้อ ก็ขับมาเลนซ้ายสุดด้วยความเร็วสูง ตนเห็นล้อด้านซ้ายของลูกพ่วง ตกล่องกลางถนน ทำให้ลูกพ่วงเสียหลัก ส่ายไปมา และไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ เป็นจังหวะที่รถพ่วงคันดังกล่าว ขับแซงรถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่ขับมาในเลนกลางจนพ้นแล้ว แต่ลูกพ่วงได้ดึงหัวลากเซไปทางเลนขวาสุด ทำให้ลูกพ่วงเบียดรถเก๋งคันดังกล่าวเข้ากับแบริเออร์กลางถนนเข้าอย่างจัง รถพังยับ แม่กับเด็กกระเด็นออกมานอนกองกับพื้นถนน เด็กอาการสาหัส ต้องรีบจอดรถลงไปช่วยเหลือ และช่วยกันเปิดประตูนำคนขับออกมาจากตัวรถ แล้วแจ้งตำรวจซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด กล้องหน้ารถตนสามารถบันทึกภาพไว้ได้
ส่วนนางอุไร อายุ 55 ปี อาชีพเก็บของเก่า อยู่ใต้ต่างระดับเอกชัย ให้การว่าตนเห็นรถพ่วงคันนี้มาจอดแล้วคนขับก็รีบลงจากรถ ล็อกรถก่อนวิ่งขึ้นรถแท็กซี่ หลบหนีไป ด้านร.ต.อ.สรายุทธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทะเบียนรถพ่วงคันก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ครอบครองเป็นบุคคล ไม่ใช่บริษัท และได้ติดต่อให้เจ้าของรถพาตัวคนขับเข้ามามอบตัวเพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถพยานที่ขับตามหลังมา ทำให้ทราบว่า ทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน แต่เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ซึ่งจะต้องไปสอบสวนผู้บาดเจ็บอีกครั้ง แต่ต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อน.-สำนักข่าวไทย