กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – รอง ผบช.น. แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชุมนุม #ม็อบ20สิงหา พบมีการนำไปป์บอมบ์มาใช้ในพื้นที่ชุมนุมเป็นครั้งแรก พร้อมจับกุมผู้กระทำผิด 15 คน
วันนี้ (20 ส.ค.) เวลา 20.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า วันที่ 20 สิงหาคม 2564 โดยไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนจัดกิจกรรมลักษณะคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือต่อสถานทูต 3 แห่ง ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน และสลายตัวไปเมื่อช่วงบ่าย แต่กลับพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งมารวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ โดยการใช้พลุเพลิง ประทัดยักษ์ ระเบิดขวด และยังพบว่า บางส่วนใช้ระเบิดไปป์บอมบ์ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่เป็นครั้งแรก ตำรวจจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างน้อย 15 คน นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของผู้กระทำผิดยังใช้เครื่องกระสุนปืน และระเบิดปิงปองที่นำมาด้วย ใส่ในหีบห่อหรือกระเป๋าของพนักงานส่งอาหารบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังย้ำถึงผลการจับกุมคดีสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม เช่น จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเผาป้อมจราจร ใต้ทางด่วนดินแดง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีภาพหลักฐานยืนยันขณะกระทำผิด และตรวจค้นพบเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันเกิดเหตุ จากการสอบสวนสารภาพว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุจริง
อีกคดี ตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ที่มีการชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ และจำหน่ายวัตถุระเบิด พร้อมยึดระเบิดปิงปอง 75 ลูก ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนในพื้นที่การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม โดยมีการบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ผู้ชุมนุมถือ ไม่ใช่อาวุธปืน แต่เป็นช่องเสาไฟ แต่ตำรวจพร้อมสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ณ สถานที่จริง พบว่าบริเวณดังกล่าวไม่ช่องเสาไฟแต่อย่างใด สอดคล้องกับข้อมูลของฝ่ายสืบสวนที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบชัดว่า มีการถืออาวุธปืนในพื้นที่ชุมนุมจริง ซึ่งจะมีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย