ตร.เร่งสอบข่าวฉาว อ้างถูก “อมเบี้ยเลี้ยงโควิด”

กทม. 13 ส.ค.- รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันตำรวจเสี่ยงภัยโควิดที่ต้องได้เบี้ยเลี้ยงมากกว่าคนที่ไม่ได้มาทำ หลังหลายท้องที่ร้อง โดนอมเบี้ยเลี้ยง


จากกรณีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดพัทลุงร้องเรียนไปยังสื่อมวลชนในพื้นที่ว่า ทางตำรวจได้รับจัดสรรเงินเบี้ยเลี้ยงโควิดประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท หลังผู้บังคับบัญชาเรียกประชุมตำรวจทุกนาย และแจ้งว่าเงินค่าเสี่ยงภัยโควิดจะถูกโอนเข้าบัญชีผู้ปฏิบัติงาน แต่พอเงินโอนแล้ว ให้ถอนเงินสดมาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่การเงิน เพื่อจะจัดสรรใหม่  พร้อมกำชับว่าห้ามโอนคืนเด็ดขาด แต่ให้นำเงินสดมาคืนเท่านั้น ซึ่งคนที่ส่งหนังสือร้องเรียนฉบับนี้ มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นเงินที่ได้จากการทำงาน เหตุใดต้องส่งคืนเพื่อจัดสรรใหม่ เรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำหรับกรณีของ สภ.ในจังหวัดพัทลุง เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าคงจะเหมือนกับพื้นที่อื่น โดยเบี้ยเลี้ยงจะถูกจัดสรรโดยกองการเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ สภ.ละเท่าๆ กันทั่วประเทศ โดยยึดตามหลักความเป็นจริง ว่าใครออกมาปฏิบัติหน้าที่มากก็ได้มาก และอาจจะมีการหักเงินค่าอาหารบางส่วน ซึ่งการจัดการเมื่อเงินไปถึงระดับภูธรจังหวัดแล้วการจัดการจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ส่วนการที่มีการเรียกเก็บเงินเพื่อนำมาจัดสรรใหม่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องตรวจสอบ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับมาตลอดว่าห้ามให้เกิดการทุจริตเงินเบี้ยเลี้ยงโควิด ซึ่งกรณีของ จ.พัทลุง จะเข้าข่ายหมูไม่กลัวน้ำร้อนหรือไม่ หากพบว่าผิดจริง จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

สำหรับภาพรวมคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ทั่วประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งดำเนินการแล้ว 215 ราย โดยแบ่งเป็นการลงทัณฑ์ 96 ราย ยุติการทำหน้าที่ 95 ราย อยู่ระหว่างสวน 24 ราย ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติดำเนินการ


ขณะที่ พล.ต.อ.วิสนุ ระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากตรวจสอบแล้วมีมูลให้รีบลงโทษ เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ กับการกระทำดังกล่าว พร้อมย้ำว่าตำรวจชั้นประทวนที่ทำงานจริง ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าผิดจะดำเนินการอย่างจริงจัง  และยังกำชับให้ทุก สภ.ดำเนินการเรื่องค่าตอบแทนให้ถูกต้องตามระเบียบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า