ตร.ขอข้อมูลฮ่องกง จับเฮโรอีนส่งจากไทย

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – ผบช.ปส. เร่งประสานขอข้อมูลทางการฮ่องกง หลังตรวจยึดเฮโรอีนมูลค่า 900 กว่าล้านบาท ซุกเครื่องกรองน้ำ-เครื่องชงกาแฟจากไทย เพื่อนำข้อมูลเปรียบเทียบเชื่อมโยงคดีอื่นหรือไม่ คาดเกี่ยวพันคดีจับยาไอซ์ลอตใหญ่


หลังสำนักข่าว Hongkong International Business Channel นำเสนอข่าวหน่วยงานศุลกากรฮ่องกง ตรวจยึดเฮโรอีนน้ำหนักรวม 23.5 กิโลกรัม ซึ่งส่งจากประเทศไทย ทางเรือบรรทุกสินค้า มาที่โกดังสินค้าไควจง โดยซุกซ่อนอยู่ภายในเครื่องกรองน้ำ และเครื่องชงกาแฟ รวม 13 เครื่อง มูลค่าสูงถึง 29 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 117 ล้านบาท

การตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27พ.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ฮ่องกงได้สอบสวนเพิ่มเติมจนจับกุมชายผู้ต้องสงสัยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงได้ 2 คน อายุ 27 ปี และ 47 ปี และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งขยายผลเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตามกฎหมายฮ่องกง การลักลอบนำเข้ายาเสพติดถือเป็นคดีร้ายแรงที่มีโทษสูงสุด คือโทษปรับ 5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 20 ล้านบาท และจำคุกตลอดชีวิต


ด้านพลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยศุลกากร อยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลผลการจับกุมจากทางการฮ่องกง รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคล หรือผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้พร้อมของกลางเฮโรอีน 23.5 กิโลกรัม รวมถึง shipping ผู้ทำการส่งสินค้า และรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อ รวมถึงตัวสารเสพติด เพื่อนำมาเปรียบเทียบและทำการเชื่อมโยงหาต้นต่อหรือเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง คาดทางการฮ่องกงจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้มาในเร็วๆ นี้ ซึ่งหลังได้รับจะนำมาเปรียบเทียบกับคดีการจับกุมขบวนการค้ายาก่อนหน้านี้ว่าใกล้เคียงหรือเชื่อมโยงกับคดีใด จากนั้นจะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ในฝั่งไทยทั้งหมด เบื้องต้นทราบว่าผู้ที่ถูกจับกุมเป็นคนสัญชาติจีนทั้ง 2 คน คาดว่าเครือข่ายเฮโรอีนลอตนี้อาจเชื่อมโยงกับการจับกุมไอซ์ลอตใหญ่เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังเปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยอีกว่า สำหรับเส้นการข่าวลำเลียงยาเสพติด จากการข่าวพบว่าเฮโรอีนทั้ง 23 กิโลกรัม ไม่ได้มีปลายทางที่ฮ่องกง แต่ปลายทางหลักนั้นอยู่ในกลุ่มยุโรป แต่ทางการฮ่องกงตรวจสอบพบความผิดปกติของผู้รับสินค้า ซึ่งไม่มีตัวตน จึงเข้าตรวจค้นและพบของกลางดังกล่าว ส่วนยาลอตนี้ ต้นทางไม่ใช่ประเทศไทย แต่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนความคืบหน้าที่กรณีที่ทางการออสเตรเลียจับกุมไอซ์ 316 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 2,400 ล้านบาท ซุกซ่อนในเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจทราบตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงรอผลการตรวจยาเสพติดที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศจะส่งผลอย่างเป็นทางการมาให้ เมื่อได้รับแล้วจะนำไปใช้พิจารณาร่วมกับพยานหลักฐานที่มีว่าเพียงพอต่อการออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดีหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทั้ง 2 คดี ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ส่งชุดสืบสวนออกรวบรวมพยานหลักฐานไว้ก่อนแล้ว ไม่ได้รอหลักฐานจากการประสานความร่วมมือเพียงอย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน