กรุงเทพฯ 2 มี.ค.- ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้เผาทรัพย์สินหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุในวันนี้ ขณะที่สำนักข่าวไทยได้เบาะแสสำคัญจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพรถคนร้ายได้ ตั้งแต่ต้นจนก่อเหตุเสร็จ
ภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดชุดนี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่สำนักข่าวไทยได้รับมาจากแหล่งข่าว โดยจะเห็นรถยนต์สีขาวคันหนึ่งวิ่งผ่านร้านแกรนด์ โฮม ใต้สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร ใกล้กับซอยงามวงศ์วาน 35 ในเวลา 02.46 น. จากนั้นรถคันดังกล่าวได้วิ่งผ่านปากซอยชินเขต 1 (งามวงศ์วาน 43)
ถัดมาอีก 1 นาทีเศษในเวลา 02.47 น. รถคนร้ายวิ่งผ่านร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยงามวงศ์วาน 53 และวิ่งผ่านบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งริมถนนงามวงศ์วานขาเข้า ก่อนถึงหน้าสำนักงาน กฟภ. สำนักงานใหญ่
จากนั้นได้วิ่งผ่านหน้าสำนักงาน กฟภ. ในเวลา 02.48 น. และไปกลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางเขน เพื่อกลับไปทางถนนงามวงศ์วานขาออก และหลังจากนั้นรถคนร้ายวิ่งผ่านหน้าสำนักงาน กฟภ. ฝั่งขาออก และปรากฏภาพวิ่งผ่านประตูเรือนจำกลางคลองเปรมในเวลา 02.49 น.
หลังจากนั้นเวลา 02.50 น. พบรถคนร้ายจอดริมถนน เลยจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 50 เมตร และหลังจากประมาณ 5 นาที คือ ในเวลา 02.55 น. พบรถคนร้ายถอยกลับมาห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 เมตร
ในเวลาประมาณ 03.08 น. ยังพบรถคนร้ายจอดอยู่ริมถนนที่จุดเดิม แต่พบว่าไฟเริ่มลุกติดตรงจุดเกิดเหตุ และในเวลา 03.09 น. สังเกตเห็นไฟเบรกของรถคนร้ายสว่างขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นการขึ้นรถเพื่อหลบหนี
สำหรับคดีนี้กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เพื่อให้ติดตามรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบเพราะเป็นรถเพียงคันเดียวในเวลานั้น อีกทั้งยังตรวจพบอุปกรณ์ที่คาดว่าจะใช้ก่อเหตุ ทั้งถังน้ำมัน และไฟแช็ค ทิ้งไว้ เบื้องต้นพบผู้ต้องสงสัย 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ซึ่งมีการติดตามจากกล้องวงจรปิดไปจนถึงที่พัก และพบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเมือง
สำหรับข้อกล่าวหาที่กรมราชทัณฑ์แจ้งความร้องทุกข์กับ สน.ประชาชื่น 3 ข้อหา คือ 1.วางเพลิงเผาทรัพย์ 2.บุกรุกสถานที่ราชการ และ 3.มาตรา 112
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย รายงานว่า ล่าสุดตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว พร้อมเร่งขยายผลเพราะมีเบาะแสว่ามีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง
“สมศักดิ์” รู้ตัวการสำคัญ-ผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว
ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า จากการสืบสวนเชิงลึกทำให้ทราบถึงตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังแล้ว รวมถึงได้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ทราบถึงบุคคล และกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเผยแพร่ภาพเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เร็วๆ นี้จะมีการออกหมายจับทั้งผู้ลงมือ, ผู้ร่วมขบวนการ และตัวการสำคัญ.-สำนักข่าวไทย