สุราษฎร์ธานี 12 ก.พ. – ตำรวจกองปราบฯ ตามจับหนุ่มล่อลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ล่วงละเมิดทางเพศ หลังหนีคดีจาก จ.สุรินทร์ มาอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี นาน 11 ปี
กองบังคับการปราบปราม โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ต.ธีระยุทธ ไทยราช สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ธีระพงษ์ คงเขียว รอง สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายภูวดล หรือ ติ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 97/2553 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2553 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดเกี่ยวกับการอนาจาร กระทำชำเรา จำเลยไม่ไปศาลตามกำหนดนัด มีพฤติการณ์หลบหนี” โดยจับกุมได้หลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ต.สินเจริญ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี พ.ศ. 2550 นายภูวดล และครอบครัวได้ไปประกอบอาชีพทำนาที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งนายภูวดล มีนิสัยเจ้าชู้ จนภรรยาจับได้ว่า นายภูวดลไปแอบชอบเด็กหญิงอายุ 13 ปี ในหมู่บ้านเดียวกัน ทำให้ภรรยาไม่พอใจและทะเลาะกัน จนภรรยาพาลูกหนีออกไปจากบ้าน
หลังจากที่นายภูวดล พักอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว นายภูวดลได้ใช้อุบายล่อลวงเด็กหญิงคนดังกล่าวมาที่ห้องพักของตน แล้วใช้กำลังบังคับล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมทั้งขู่บังคับผู้เสียหายไม่ให้นำเรื่องดังกล่าวไปบอกแก่ผู้อื่น แต่ต่อมาทางพ่อแม่ของผู้เสียหายสังเกตเห็นพฤติกรรมของบุตรสาวเปลี่ยนไป จึงได้สอบถามจนทราบความจริง พ่อแม่ของผู้เสียหายจึงพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมดงรัก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ได้แล้วนั้น นายภูวดลได้ขอประกันตัวในชั้นศาล และหลบหนีไม่เข้ารับฟังคำพิพากษาของศาล
จนกระทั่งวันนี้ (12 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับ บก.สส.ภ.8 สืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยและทำงานในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.สินเจริญ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี จึงเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งศาลจังหวัดสุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า ตนได้ใช้กำลังบังคับกระทำชำเราผู้เสียหายจริง โดยล่อลวงผู้เสียหายมายังห้องพักของตน แล้วลงมือล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อรู้ว่าถูกแจ้งความเอาผิด จึงได้หลบหนี. – สำนักข่าวไทย