ยังไม่ออกหมายเรียก “ดีเจมะตูม” รอสอบพยาน

กรุงเทพฯ 31 ม.ค.-ตำรวจยืนยันยังไม่ออกหมายเรียก “ดีเจ มะตูม” หลัง ผอ.สำนักงานเขตสาทร เข้าลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากยังต้องเรียกสอบพยานและตรวจสอบหลักฐานอีกมาก โดยเฉพาะพนักงานเสิร์ฟอาหารที่อยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน


หลังจากที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสาทร เข้าลงบันทึกประจำวัน กับตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอให้ตรวจสอบความผิด “ดีเจ มะตูม” และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่จัดงานปาร์ตี้วันเกิดเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในโรงแรมบันยันทรี เขตสาทร เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาว่า ผิดข้อหาใดบ้าง

พันตำรวจเอกชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตร.อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายสืบสวนได้เริ่มตรวจสอบไปบางส่วนแล้ว เช่น ภาพวงจรปิด ที่จะบอกช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่า ทางโรงแรมเปิดให้บริการเกินเวลาหรือไม่ ส่วนเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องรอสอบสวนพนักงานเสิร์ฟที่ทำงานในวันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน คาดว่าจะครบกำหนดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการดำเนินคดีกับ “ดีเจ มะตูม” และผู้ที่เกี่ยวข้อง ยังต้องรอเอกสารสอบสวนโรค จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสอบปากคำอีกหลายปาก เช่น ตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในฐานะผู้เสียหาย, ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี ว่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง นอกจากนี้ยังต้องเรียกสอบปากคำ “ดีเจ มะตูม” เพื่อซักถามข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุด้วย แต่หากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ชัดเจนแล้ว ก็จะออกหมายเรียก “ดีเจ มะตูม” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทันที โดยยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าจะชัดเจนในเดือนกุมภาพันธ์นี้


สำหรับความผิดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่จะพิจารณาดำเนินคดี เช่น ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องการกำหนดเวลาเปิด-ปิด การให้บริการ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องการสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว รวมทั้งเรื่องการปกปิด ข้อมูลหรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]