กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- ครอบครัวสาวท้อง 9 เดือน ถูกสามียิงตายคาบ้านพัก ร้องอัยการสูงสุด หลังอัยการจังหวัดเพชรบุรี สั่งไม่ฟ้องข้อหาเจตนาฆ่า แต่เห็นว่าเป็นเหตุประมาท
ครอบครัวนางสาวรุ่งทิพย์ แสงจันทร์ หญิงท้อง 9 เดือน ที่ถูกนายชัยราชวัฒน์ หรือ ป้อม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตำบลห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นสามีผู้ตาย ยิงเสียชีวิตในบ้านพักในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมทนายความ เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีอัยการจังหวัดเพชรบุรี สั่งไม่ฟ้องผู้ก่อเหตุในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่สั่งฟ้องว่าเป็นความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งครอบครัวไม่เห็นด้วยกับการสั่งไม่ฟ้องในข้อหาดังกล่าว เพราะเชื่อว่าเกิดจากการฆาตกรรมไม่ใช่ความประมาท
นางสาวเฉิดโฉม คำตัน พี่สาวต่างบิดาผู้เสียชีวิต ระบุว่าตั้งแต่เกิดเหตุคดีมีความไม่ชอบมาพากล ทำให้ญาติติดใจหลายเรื่อง โดยเฉพาะร่องรอยบาดแผล วิถีกระสุนและเขม่าดินปืน ตอนแรกพนักงานสอบสวนแจ้งญาติว่าน้องสาวยิงกรอกปากตัวเองเสียชีวิต ซึ่งไม่ตรงกับบาดแผลที่พบจากการชันสูตร พบวิถีกระสุนยิงจากศีรษะด้านบนลงล่าง ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาเรื่องการตรวจคราบเขม่าดินปืน ทั้งจากตัวผู้เสียชีวิตและคู่กรณี ที่พนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ที่ผ่านมาทางญาติพยายามติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีมาตลอด จนพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องคดีเจตนาฆ่า แต่สุดท้ายพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี กลับเห็นต่างว่าเป็นเหตุประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงพากันมาร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด
ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางมารับหนังสือ พร้อมระบุว่า หลังจากที่อัยการจังหวัดเพชรบุรีมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพราะเห็นว่าทั้งสองคนอยู่กินกันมานานจนตั้งครรภ์ 9 เดือน กระทั่งวันเกิดเหตุตัวสามีนั่งกินสุราอยู่หน้าบ้านกับเพื่อน ก่อนจะนำเงินเข้าไปเก็บในห้องที่ภรรยาอยู่ และมีปากเสียงกันเรื่องค่าคลอดบุตร ก่อนจะเกิดเหตุขึ้น และหลังเกิดเหตุเพื่อนๆ ก็ได้มานำตัวภรรยาส่งโรงพยาบาล จึงมองว่าเหตุดังกล่าวเป็นเหตุฉับพลันที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการเจตนา และเมื่ออัยการจังหวัดเพชรบุรีสั่งไม่ฟ้อง สำนวนดังกล่าวก็ส่งไปให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และมีความเห็นแย้งสั่งไม่ฟ้องในข้อหาดังกล่าว
ดังนั้น เมื่อมีความเห็นต่างในการสั่งคดี คนชี้ขาดก็คืออัยการสูงสุด ซึ่งขณะนี้อยู่อยู่ระหว่างส่งสำนวนมาที่อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาชี้ขาด พร้อมยืนยันว่าอัยการสูงสุดจะดำเนินการพิจารณาสำนวนใหม่อย่างรอบคอบ เป็นธรรม และเร่งรัดที่สุด เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะแถลงต่อครอบครัวและสังคมให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย