เตรียมพิจารณาการชุมนุมกลุ่มประชาชนปลดแอกเข้าข่ายความผิดหรือไม่

กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- ตำรวจเตรียมพิจารณา การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก เข้าข่ายความผิดใดหรือไม่ รวมถึงแกนนำที่ได้รับเงื่อนไขการขอปล่อยตัวชั่วคราวของศาล ที่ให้ประกันตัว ยืนยันศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ชุมนุม 15 คน ไม่ใช่ 31 คนตามที่กล่าวอ้าง


         พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้เดินทางไปประชุม และรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเย็นวานนี้ (16 ส.ค.)  ต่อพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุสั้นๆ เพียงว่าจะกลับมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

         ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ โทรศัพท์ ไปสอบถาม พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น.  ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับคณะทำงานว่ามีบุคคลใดทำผิดกฏหมายในการชุมนุมเมื่อวานนี้หรือไม่ รวมทั้งแกนนำที่ถูกศาลออกหมายจับก่อนหน้านี้แล้ว ได้รับการประกันตัวออกมา 3 คน ว่าผิดเงื่อนไขการขอปล่อยตัวชั่วคราว หรือไม่ หากพบว่ามีพฤติกรรมใดที่ขัดต่อเงื่อนไข ก็จะต้องให้พนักงานสอบสวนไปยื่นขอถอนประกันต่อศาล โดยยืนยันว่าการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบ จึงอาจยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้


        ทั้งนี้ จากการที่แกนนำผู้ชุมนุม เดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยอ้างว่ามาแสดงตัวเพราะทราบว่ามีหมายจับ แต่ว่าไม่ได้ควบคุมตัวไว้นั้น เพราะอาจกระทบต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มแกนนำอยู่ท่ามกลางมวลชนจำนวนมาก และมีการสร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายเข้าไปควบคุมตัวแกนนำในฝูงชน จึงมองว่าเหตุการณ์ไม่ใช่การมอบตัว แต่หากหลังจากนี้แกนนำจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนโดยปราศจากมวลชน ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

       ส่วนที่แกนนำบอกว่ามีการออกหมายจับแกนนำ 31 คนนั้น ตำรวจยืนยันว่าศาลออกหมายจับแล้วเพียง 15 คนเท่านั้น ส่วนจำนวน 31 คนเป็นจำนวนที่ผู้ชุมนุมกล่าวขึ้นมาเอง

        นอกจากนี้ ที่มีการแชร์คลิปวีดีโอในโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการตัดสัญญาณอย่างแน่นอน โดยอุปกรณ์ดังกล่าว คือเครื่องตัดสัญญานอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน เนื่องจากพื้นที่ชุมนุมเป็นพื้นที่ควบคุมที่ห้ามใช้โดรน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี