กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – ทนายเกิดผล เผย “เลขาฯ หมอบี” เคยฟ้องหลวงพ่อว่า “หมอบี” เปลี่ยนไป ส่วนนักร้อง-วงดนตรี-ดาราตลก มาพบหลวงพ่อ มีขาประจำเป็นวงดนตรียุค 80-90 แต่ไม่ยืนยันว่ามายืมเงินหรือไม่
ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ในฐานะอดีตกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์ และอดีตทนายความวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการยื่นงบประมาณของมูลนิธิธรรมรักษ์ ปี 2567 ที่มีเงินส่วนต่างหายไป 3 ล้านบาท ว่า ตัวเองเคยเป็นกรรมการช่วงปี 2564 แต่เรื่องงบประมาณของปี 2567 ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีหน้าที่เรื่องการทำบัญชีและไม่ได้เข้าประชุมงบประมาณ แต่มีช่วงที่ได้ร่วมประชุมประมาณ ปี 2565 สมัยที่ไวยาวัจกรคนเก่าเป็นประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ด้วย ตอนนั้นมูลนิธิธรรมรักษ์ไม่มีรายได้ หรือรายได้น้อย เนื่องจากเป็นช่วงโควิด-19 “อดีตพระอลงกต” จึงได้บริจาคโอนเข้าบัญชีของมูลนิธิธรรมรักษ์ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเงินส่วนตัวของ “อดีตพระอลงกต” หรือเงินวัด แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเงินวัด
ส่วนกรณีที่มีบุคคลหนึ่งเป็นทั้งกรรมการมูลนิธิธรรมรักษ์ และไปมีรายชื่อในคณะกรรมการของมูลนิธิอาทรประชานาถด้วยนั้น ตามกฎหมายสามารถทำได้หากเป็นแค่กรรมการ แต่ถ้าเป็นประธานไม่น่าจะเป็นคนเดียวกันได้
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิธรรมรักษ์เป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากวัดอยู่แล้วก็จริง แต่ก็เหมือนอาศัยความน่าเชื่อถือของ “อดีตพระอลงกต” ดังนั้นถ้าคนหมดศรัทธากับ “อดีตพระอลงกต” แล้ว มูลนิธิธรรมรักษ์ย่อมได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้มูลนิธิไม่มีรายได้ และโครงการของมูลนิธิฯ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของ “อดีตพระอลงกต” ด้วย ดังนั้นถ้ามูลนิธิธรรมรักษ์ไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมูลนิธิ คือต้องโอนทรัพย์สินให้กับวัดพระบาทน้ำพุ
นอกจากนี้ ทนายเกิดผลยังบอกด้วยว่า เรื่องคนใกล้ชิดของ “หมอบี” ที่แฉพฤติกรรมผิดปกติของ “หมอบี” กับ “อดีตพระอลงกต” นั้น หลังจากที่เริ่มมีข่าว “คนใกล้ชิด” ซึ่งเป็นเลขาฯ ของ หมอบี คนนี้ก็ได้ติดต่อมาที่ตนเองและส่งข้อมูลให้ดู เพราะเป็นทนายของวัดในขณะนั้น โดยไม่ทราบว่าพวกเขามีความสนิทสนมกันขนาดไหน แต่จากการได้มีโอกาสพูดคุยกับ “อดีตพระอลงกต” และลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิด ก็มีความเชื่อว่าคนที่มาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เกิดจากความหึงหวงกัน โดยตอนแรกเขาก็ไม่ยอมบอกว่า “หมอบี” ทำอะไรผิด บอกกับหลวงพ่อเพียงว่า “หมอบี” เปลี่ยนไป แล้วก็พยายามฟ้องว่า “หมอบี” เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว จนกระทั่งหลัง ๆ เขาเอาหลักฐานมาให้ดู โดยไม่ได้บอกว่า “หมอบี” ทุจริตตั้งแต่ตอนแรก ๆ
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่ากำลังขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของวัดพระบาทน้ำพุ ประมาณ 30 คนนั้น ทนายเกิดผล ยืนยันว่า ยังไม่ทราบเรื่องรายชื่อ แต่หากตนเองมีรายชื่อ หรือตำรวจต้องการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ตนเองก็ยินดีให้ความร่วมมือ
อย่างไรก็ตาม คนที่ถือครองทรัพย์สินและเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของ “อดีตพระอลงกต” ก็เป็นคนใกล้ชิดเสียส่วนใหญ่ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการมูลนิธิฯ ต่างๆ วนเวียนอยู่ในกลุ่มนี้ แต่จะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มดารา นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์หรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าเชื่อมโยงทางเส้นทางการเงินด้วยหรือไม่ แต่เคยได้ยินและเห็นว่ามีนักร้องเข้ามาพบ “อดีตพระอลงกต” บ่อยๆ ก็มีทั้งนักร้องเดี่ยวและเป็นวง ในจำนวนนี้เห็นว่ามีวงสีชมพูมาร้องด้วย แต่ก็มีวงอื่นๆ มาด้วย แต่ไม่รู้ว่ามาร้องเพลงทุกวันอาทิตย์ มาเป็นจิตอาสา หรือว่ามีปรึกษาเรื่องเงิน และที่เห็นมาประจำเป็นวงดนตรียุค 80-90 ส่วนดาราตลกก็เห็นมาพบ “อดีตพระอลงกต” เช่นกัน แต่ทราบว่าเป็นลูกศิษย์ แต่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพย์สินหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ.-419-สำนักข่าวไทย