กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – ดีเอสไอเปิดปฏิบัติการ Operation ShadowBay เครือข่ายเงา บุกจับแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติกลางกรุง หลอกประชาชนซื้อสินค้าและบริการทิพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการ Operation ShadowBay เครือข่ายเงา เข้าตรวจค้นบุกจับแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ย่านบริเวเพชรบุรีตัดใหม่ซอย 13 เปิดเว็บไซต์ปลอมกว่าร้อยเว็บไซต์ หลอกประชาชนให้ซื้อสินค้าและบริการทิพย์ไม่มีอยู่จริง มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในโกดังมีการเปิดบริษัท คาโก้ นำเข้าส่งออก บังหน้า ลักษณะโกดังมีสินค้า กล่องลัง ตั้งอยู่เต็มพื้นที่ พบผู้ต้องหาชายชาวไนจีเรีย 1 คน จึงแจ้งข้อหารวม 5 ข้อหา ฉ้อโกงประชาขน, องค์กรอาชญกรรมข้ามชาติ, ฟอกเงิน, ร่วมสมคบฟอกเงิน, ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สร้างเว็บไซต์ปลอม นอกจากนี้ยีงมีการคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำอีกด้วย

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ อ้างว่าเปิดบริษัทลงทุนซื้อขายถุงมือยาง เครื่องมือแพทย์ ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกพวกเสื้อผ้าไปหลายประเทศ เช่น ไนจีเรีย แอฟริกา และเช่าโกดังเพื่อเก็บสินค้ามานานหลายปี จากการสืบสวน พบว่าตั้งแต่ช่วงโควิด มีประชาชนผู้เสียหายสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ แล้วไม่ได้ของโดยเฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย มีผู้เสียหายคนไทยยื่นเรื่องร้องเรียนกว่า 30 เรื่อง และแจ้งความหลายพื้นที่กว่า 30 ราย โอนเงินแล้วไม่ได้รับสินค้าใดๆ ทั้งสิ้น
ดีเอสไอจึงเร่งแกะรอยขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาตินี้และเส้นเงินมานานหลายปี จนพบความเชื่อมโยงว่า มีพฤติการณ์หลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่องนานหลายปีจัดตั้งเปิดบริษัทหลาย 10 บริษัท เปิดเว็บไซต์กว่า 100 เว็บ มีเครือข่ายกระจายหลายประเทศ แบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งดูแลเว็บไซต์ ทำบัญชี ดูแลเรื่องเงิน โดยมีฐานอยู่ที่ประเทศอินเดีย มีแอดมินชาวอินเดียคอยสนทนาโต้ตอบทางเว็บไซต์ด้วยภาษาอังกฤษกับผู้เสียหาย มีคนไทยร่วมทำบัญชี และมีการผูกมีบัญชีม้าเป็นชื่อคนไทย มีบัญชีคริปโตฯ นอกจากนี้ยังมีการหลอกให้รัก หลอกให้หลงโรแมนซ์สแกมอีกด้วย ซึ่งมีเหยื่อผู้เสียหายหลงเชื่อหลายราย
โดยในวันนี้พรุ่งนี้จะมีการแถลงผลปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา 24 หมายจับ ในพื้นที่กรุงเทพฯ กระบี่ เปิดแผนประทุษกรรมและเส้นทางเงิน ที่เป็นหลักฐานชี้ชัดจนนำไปสู่การเข้าค้นหลายพื้นที่และจับกุมผู้ต้องหา
ขณะที่เจ้าของโกดังชาวไทย เปิดเผยว่า มีคนไทยและชาวต่างชาติ มาติดต่อขอเช่าโกดัง ทำสัญญารายปี เดือนละ 5 หมื่นบาท เช่ามานนาน 5 ปี แล้วไม่มีปัญหา เห็นมีป้ายชื่อบริษัทมีการขนส่งสินค้าจริงจึงไม่มีความผิดปกติใด จนเมื่อเจ้าหน้าดีเอสไอติดต่อมาจึงทราบเรื่องและเข้ามาให้ข้อมูล. -416- สำนักข่าวไทย