แจ้งความถูกสวมชื่อทำประกัน วงเงิน 120 ล้าน

9 พ.ค. – สองสามีภรรยาถูกสวมชื่อทำประกันวงเงิน 120 ล้าน เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบ พร้อมยืนยันไม่เคยมีสัญญา หรือทำประกันเพื่อใช้ค้ำประกันเงินที่ยืมฝ่ายคู่กรณี


นางชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานางสาวพัชรวรินทร์ หรืออุ๊ และนายธนาญวัฒณ์ หรือโต้ง ผู้เสียหายสองสามีภรรยา เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดบุคคลที่นำชื่อของผู้เสียหายไปสวมสิทธิ์ทำประกันชีวิตวงเงิน 120 ล้านบาท เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทัังหมด

นางชลิดา กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาแจ้งความที่กองปราบ เพราะเริ่มแรกผู้เสียหายพยายามแจ้งความ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่างจังหวัดและมีหลายท้องที่ได้ทำกับบริษัทประกันส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีใครบ้างผู้เสียหายจะแจ้งกับทางตำรวจ เบื้องต้นทราบว่ามี 2-3 ราย ส่วนกรมธรรม์อื่นๆ ที่มีทั้งลายเซ็นและตัวแทนประกันก็จะมีเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งจะต้องรอเอกสารจากคปภ. เพื่อแจ้งความเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความลงบันทึกที่จังหวัดศรีสะเกษเกี่ยวกับบริษัทประกันไว้โดยยืนยันว่าตัวเองไม่เคยไปทำประกันมาก่อน ส่วนข้อกล่าวหาที่จะแจ้งในวันนี้ให้ทางตำรวจเป็นผู้ประเมินว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายผู้ที่ถูกกล่าวหาจะแจ้งข้อกล่าวหาอะไรบ้าง เบื้องต้นอาจเข้าข่ายผิดข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม ในส่วนข้อหาพยามฆ่าในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษตำรวจได้เรียกเข้าไปสอบปากคำหลังจากที่ตัวเองได้โพสต์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กว่าผู้เสียหายอาจถูกปองร้ายหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าทางอีกฝ่ายพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ถึงแม้ผู้เสียหายจะเคยเป็นผู้กระทำความผิดมาก่อนแต่ไม่ใช่จะต้องผิดตลอดไปทุกคนมีโอกาสที่จะปรับปรุงตัวได้และผู้ถูกกระทำก็ควรมีสิทธิ์ในการที่จะปกป้องตัวเอง และผู้เสียหายไม่สามารถจ่ายเบี้ยประกัน แต่ละปีต้องจ่ายเงินประมาณ 2 ล้านบาท


นางสาวพัชรวรินทร์ กล่าวว่า ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นใครที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ แต่เมื่อได้เอกสารมาจึงทราบว่าใครเป็นผู้รับผลประโยชน์ วันนี้จึงมาแจ้งความเอาผิดรผู้รับผลประโยชน์โดยตัวแทนบางท่านเป็นญาติกับตัวเองและเคยมีคดีความกันมาก่อน ยืนยันว่าตัวเองและสามีไม่ได้ทำประกันชีวิตกับตัวแทนคนไหนมาก่อน ส่วนกระบวนการของการทำประกันชีวิตผู้เอาประกันจะต้องลงลายมือชื่อด้วยตัวเอง ฉะนั้นลายเซ็นใบคำขอที่ประสงค์เอาประกันภัย สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นลายเซ็นของตัวเองหรือไม่

ทั้งนี้ ไทม์ไลน์ก่อนหน้านี้ได้ฝากเอกสารไว้กับทนายความระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาจึงไม่ได้นำเอกสารใดเข้าไปด้วย และทราบว่าทนายความรู้จักกับนางวัชรี นอกจากนี้ยังพบว่า การทำประกันภัยมีการนำบัตรประชาชนอันเก่าของตัวเองไปทำประกันภัย โดยหลังจากที่ตัวเองออกมาจากเรือนจำได้ทำบัตรประชาชนอันใหม่แล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีการใช้บัตรประชาชนใบเก่าไปทำกรมธรรม์ พร้อมยอมรับว่ารู้จักกับตัวแทนตัวแทนบริษัทประกันภัยเพียงคนเดียวที่เป็นญาติยืนยันว่าหลังจากพ้นโทษตัวเองไม่ได้มีการทำประกันภัย

ส่วนกรณีล่าสุดที่อีกฝั่งให้สัมภาษณ์ว่าตัวผู้เสียหายมีกรมธรรม์เพียง 2-3 กรมธรรม์ แต่ความจริงของตัวเองมี 8 กรมธรรม์ ส่วนของสามีมีกว่า 10 กรมธรรม์ โดยเขายอมรับว่าเป็นคนทำกรมธรรม์เพื่อให้ครอบคลุมกับยอดหนี้ที่ได้เป็นหนี้อีกฝั่งไว้ ซึ่งล่าสุดมีการฟ้องร้องยอดหนี้จำนวน 50 ล้านบาท แต่พบมีการทำกรมธรรม์ของผู้เสียหายทั้งสองคนจำนวน 46 ฉบับ วงเงิน 120 ล้านบาท ส่วนเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2565 สามีได้ประสบอุบัติเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้มีความเคลือบแคลงใจสงสัยว่ามีการถูกประทุษร้ายหรือถูกลอบฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกัน และเชื่อว่าอาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง


นางสาวพัชรวรินทร์ ฝากถึงบริษัทประกันภัยว่าตัวเองและสามียืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาจะทำประกันชีวิต อยู่ดีๆ กลับมีเซอร์ไพรส์การทำประกันชีวิตเบื้องต้นพบมี 46 กรมธรรม์วงเงินคุ้มครอง 120 ล้านบาท จึงอยากให้มีการคัดกรอง ขั้นตอนการตรวจสอบการทำประกันให้มีความเข้มงวด และให้ตรวจสอบอัตลักษณ์เบื้องต้น หลังจากที่ตัวเองพ้นโทษมาแล้วมีคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เคยมีอยู่หนึ่งครั้งเคยติดต่อให้ตัวเองถ่ายรูปคู่กับประชาชนโดยอ้างว่าจะให้ความช่วยเหลือในการทำประกันสุขภาพให้เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์เบิกได้ เพราะขณะนั้นตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ ตัวเองจึงปักใจเชื่อเพราะตอนนั้นลำบากจึงยินดีส่งรูปคู่กับบัตรประชาชนไปให้นางวัชรีในไลน์ จึงไปสอบถามว่าการทำประกันสังคมมีขั้นตอนแบบนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือไม่มี แต่ข้อสงสัยมาตลอดว่านำไปทำอะไรแต่ก็ไม่ได้สอบถามหรือทวงติง เพราะด้วยรายได้ในตอนนั้นยืนยันตัวเองไม่มีรายได้เพียงพอที่จะสามารถทำประกันเองได้

นายธนาญวัฒณ์ ยืนยันไม่ได้มีการจดบริษัท เมื่อมีข้อสงสัยจึงไปสืบค้นที่จังหวัดว่าตัวเองมีชื่อในกรรมการบริษัท ยืนยันไม่เคยเซ็นสัญญาทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ด้วยลายมือชื่อ ไม่มีการตกลงเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ และไม่มีหลักฐานอะไรจะยืนยันว่าตัวเองจะเป็นหุ้นส่วน และหากมีลายเซ็นของตัวเองลายเซ็นนั้นจะต้องเป็นลายเซ็นปลอม

ส่วนกรณีที่มีการทำประกันกับตัวแทนบริษัทประกันแห่งหนึ่งยืนยันว่ามีการพบเห็นตัวเองนั้น นายธนาญวัฒณ์ บอกว่า กรณีนั้นน่าจะมีคนสวมรอยเป็นตัวเอง ฝั่งตัวแทนประกันยืนยันว่าพบเห็นผู้ชายแต่ไม่เห็นชัดเห็น และเดินเข้าไปในบ้าน และจ่ายเงินสด ทั้งนี้ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่นั่นโดยมีพยานบุคคลยืนยันได้ในวันนั้นตัวเองอยู่บ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนที่มาที่ไปของบัญชีธนาคารกรุงไทย บัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีฝากไว้กับนาฃวัชรีเพื่อจะให้นางวัชรีไปนำเงินจำนวน 200,000 บาท ออกมาเพื่อเป็นการใช้หนี้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการคืนสมุดบัญชีและเอทีเอ็ม และยืนยันว่าตัวเองมีภรรยาเพียงคนเดียวคือนางสาวพัชรวรินทร์ และมีลูกสองคน

นายธนาญวัฒณ์ เล่าต่อว่า นางวัชรีเป็นส่วนกลางในการติดต่อคุณบอยให้ตัวเองรู้จัก เพื่อให้คุณบอยมาดูพื้นที่บ้านเพื่อทำธุรกิจจำนำรถและนำรถที่รับจำนำไปจอดไว้ โดยให้ตัวเองเป็นคนดูแลสถานที่จอดและอำนวยความสะดวกต่างๆโดยนางวัชรีนำเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองให้บอยและเบอร์ของบอยให้ตัวเอง และได้มีการนัดหมายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ขณะรับประทานอาหารมีการถ่ายภาพ ก่อนจะถูกรถชนจังหวะสุดท้ายเห็นเพียงแค่แสงแล้วก็ไม่รู้เรื่องอะไร ส่วนคดีนั้นขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ทั้งนี้ขอถามกลับไปถ้าตัวเองจะต้องเสียชีวิตจะยกเงินให้คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวหรือไม่

“ยืนยันไม่มีการพูดคุยตกลงในส่วนที่เป็นหนี้กันว่าจะมีการทำประกันเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ เขาทำโดยพละการด้วยตัวเอง ตามที่เขากล่าวอ้างว่าเราเป็นหนี้เขาจำนวน 50 ล้านบาท” นายธนาญวัฒณ์ กล่าว

นางสาวพัชรวรินทร์ เล่าอีกว่า ลูกหนี้คดีแรกที่โดนฟ้องจะมาเป็นพยานให้ โดยคดีที่โดนฟ้องได้ไปตกลงยอมรับสภาพหนี้ ส่วนหนี้ 50 ล้านบาทจริงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่จริงในคำฟ้องที่ฟ้องมาปล่อยเงินกู้ให้มากถึง 50 ล้านบาทและไม่มีการชำระเงินเลย ยอดหนี้ที่ตัวเองเป็นหนี้จริงๆ ประมาณ 10 ล้านบาท การให้เงินส่วนใหญ่เป็นการโอนเงินให้และเขียนเช็คให้ ได้ผ่อนชำระโอนคืนมีสเตทเมนต์ยืนยันจำนวน 8 ล้านบาท ส่วนจุดแตกหักกับอีกฝั่งเพราะไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ตกลงไม่สามารถชำระต้นและชำระดอกตามที่ตกลงไว้ได้

ส่วนกรณีคุณแตงพยายามจบชีวิตตัวเอง นางสาวพัชรวรินทร์ บอกว่า ตัวเองและคุณแตงเป็นหนี้กันยอดประมาณ 5 ล้านบาท ช่วงเวลาที่เขาอ้างยืนยันว่าตัวเองยังอยู่ในเรือนจำ ไม่ทราบเรื่อง แต่มาทราบจากอีกฝ่ายบอกว่ามีคนจะผูกคอตาย ทั้งนี้อีกฝั่งเขาอ้างว่าทำธุรกิจกับคุณแตงโดยมีการเคลียร์ยอดหนี้กันไปแล้วจำนวน 6 ล้านบาท จากนั้นจึงชักชวนให้ตัวเองไปทำงานด้วยจึงเชื่อว่าจะได้รับโอกาส .-419 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย

กองทัพภาค 2 สั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์

22 มิ.ย.- กองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องการควบคุม การเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี มีอำนาจการควบคุมการเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสมในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดงของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งให้เกิดความเหมาะสมต่อการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน และความมั่นคงของประเทศไทย กองทัพภาคที่ 2 จึงอนุมัติให้ปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป. – สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยไทยมีฝนเพิ่ม เตือนตะวันออก รับมือฝนถล่ม

กทม. 22 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก เตรียมรับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

โผ ครม. แพทองธาร 2 หลังภูมิใจไทยถอนตัว

21 มิ.ย. – สะพัดโผ ครม. แพทองธาร ชุดใหม่ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นั่ง มท.1 พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หรือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งกลาโหม ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน ส่งผลให้ ครม. ว่างลง 8 ตำแหน่ง โผการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีชื่อของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ยืนยันว่า พร้อมไปทำงานในทุกตำแหน่งที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ส่วน รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 2) มีชื่อ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ จะสลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 3) ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม […]