ตร.ทลายขบวนการ “โจรกรรม-ฟอกขาวรถ” ตระเวนเช่ารถแล้วเชิดหนี

บช.ก. 20 มี.ค. – ตำรวจสอบสวนกลางทลายขบวนการ “โจรกรรม-ฟอกขาวรถ” ตระเวนเช่ารถแล้วเชิดหนี ก่อนปลอมเอกสารเจ้าของรถ ยื่นแจ้งเปลี่ยนทะเบียน เพื่อฟอกขาวรถที่ถูกขโมยให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย พบเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท


พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติราชการแทน บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ทศพล กิตติลาภ สวญ.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. และ ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว รองสว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันแถลงผลทลายขบวนการโจรกรรมฟอกขาวรถยนต์ ตระเวนเช่ารถยนต์แล้วเชิดหนี ก่อนปลอมเอกสารเจ้าของรถยื่นแจ้งเปลี่ยนทะเบียนเพื่อฟอกขาวรถที่ถูกขโมยให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท

สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้มี น.ส.ภัทราดา อายุ 32 ปี และนายธราเทพ อายุ 32 ปี เป็นกลุ่มตัวการ (Master Mind) ทำหน้าที่สั่งการและเป็นนายทุน ส่วนกลุ่มที่ทำหน้าที่โจรกรรมรถ มีนายโชคชนะ อายุ 66 ปี น.ส.รำไพ อายุ 30 ปี นายวรุฒ อายุ 26 ปี ยังไม่ถูกจับกุม, กลุ่มที่ทำหน้าที่ปลอมและใช้เอกสารราชการฯ ในการฟอกขาวรถที่ได้มาจากการโจรกรรมให้กลายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย มี น.ส.รัตนาภรณ์ อายุ 35 ปี และนายสิปปวินห์ อายุ 32 ปี, ส่วนที่ทำหน้าที่โพสต์ประกาศขายรถที่ฟอกขาวแล้วลงในโซเชียลมิเดีย มี น.ส.รัมภ์วิริน อายุ 30 ปี และส่วนทำหน้าที่รับ-ส่งรถที่ได้มาจากการโจรกรรม หรือ นักบินคือนายไชยวัฒน์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันยักยอกหรือรับของโจร, ร่วมกันปลอมเอกสาร ราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานฯ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำ การตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ” ตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงวันที่ 17 มีนาคม 2568


พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า คดีนี้คนร้ายทำกันเป็นขบวนการโดยแบ่งหน้าที่กันทำมีผู้ต้องหาจำนวนมาก ตำรวจได้ออกหมายจับไว้ 9 หมาย เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสืบสวนเป็นระยะเวลา 2 เดือน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน อีก 1 คน ยังหลบหนี

พ.ต.ท.ทศพล กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจทางหลวงมีการจับกุมป้ายทะเบียนปลอมอย่างเข้มงวด ทำให้คนร้ายต้องมีการฟอกขาวในการเปลี่ยนแปลงป้ายทะเบียนจากรถที่ผิดกฎหมายให้กลายเป็นรถถูกกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ได้มีนายโชคชนะ น.ส.รำไพ และ นายวรุฒ ซึ่งเป็นกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ขโมยรถเช่า ทำทีติดต่อขอเช่ารถจากบริษัทของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ตั้งอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา แต่เมื่อถึงกำหนดคืนรถ ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกลุ่มคนร้ายได้ และพบว่าสัญญาณจีพีเอสถูกตัดไป จึงเชื่อว่ารถถูกขโมยอย่างแน่นอน จากนั้นได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.แสนภูดาษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยรถ

ต่อมา น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นพบว่า รถคันดังกล่าวได้มีการแจ้งเปลี่ยนทะเบียนรถ จากหมายเลขทะเบียน กบ 2812 ฉะเชิงเทรา ไปเป็น หมายเลขทะเบียน กอ 5657 นครปฐม ผู้เสียหายจึงได้โทรประสานขอความช่วยเหลือมายังตำรวจทางหลวงผ่านสายด่วน 1193 เพื่อขอให้ช่วยติดตามรถคันดังกล่าว จากการประสานความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบกทำให้ทราบว่าเอกสารทั้งหมดที่กลุ่มคนร้ายใช้ยื่นเพื่อขอเปลี่ยนเลขทะเบียนรถเป็นเอกสารปลอมทั้งสิ้น


จากนั้นวันที่ 8 มกราคม 2568 ตำรวจทางหลวงได้ตรวจพบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ภายหลังจากเปลี่ยนป้ายทะเบียนได้ออกจาก จ.นครปฐม มุ่งหน้าขึ้นเหนือ จึงได้ประสานสกัดรถยนต์คันดังกล่าวได้ที่ จ.ตาก จากการตรวจสอบ พบนายบี เป็นผู้ขับขี่ รับว่ารถคันดังกล่าวนายบีได้เห็นการประกาศขายผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเป็นการขายพร้อมเล่มคู่มือจดทะเบียน จึงเชื่อว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้ติดต่อขอซื้อมาในราคา 300,000 บาท และได้เดินทางไปรับรถยนต์คันดังกล่าวมาจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งจาก จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่จะถูกสกัดโดยตำรวจทางหลวง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้นำรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมและเชิญตัวนายบี เดินทางกลับมาที่สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าขบวนการฟอกขาวรถยนต์ที่ได้มาจากการขโมยรถเช่ากลุ่มนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ได้แก่ กลุ่ม Master Mind ทำหน้าที่สั่งการและเป็นนายทุน, กลุ่มที่ทำหน้าที่ขโมยรถเช่า, กลุ่มที่ทำหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อใช้ยื่นขอทะเบียนใหม่พร้อมกับเล่มคู่มือจดทะเบียน การฟอกขาวรถยนต์ที่ถูกขโมยมา, ส่วนที่ทำหน้าโพสต์ขายรถยนต์ที่ฟอกขาวเรียบร้อยแล้วในโซเชียลมีเดีย และส่วนที่ทำหน้าที่เป็นนักบิน รับส่ง-รถที่ได้มาจากการโจรกรรม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล. ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.แสนภูดาษ ได้สืบสวนและรวมรวบพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา และในวันที่ 18 มีนาคม 2568 กำลังตำรวจทางหลวง กก.2 บก.ทล. กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ โดยให้การว่าในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายได้ทำการฟอกขาวรถยนต์ที่ ได้มาจากการขโมยโดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 4 คัน พบเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนภูดาษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การว่าทำมาแล้วประมาณ 1 ปี โดยใช้วิธีการเดียวกัน ตำรวจเชื่อว่ามีรถที่ถูกฟอกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คัน ทั้งนี้ตำรวจจะประสานกับกรมการขนส่งทางบกให้คัดกรองรถที่มีความเสี่ยงออกมา จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบทางทะเบียนและผู้ครอบครองเพื่อดำเนินการต่อไป ฝากไปถึงผู้ซื้อรถจะสังเกตได้อย่างไรว่าจะถูกหลอกขายรถยนต์หรือไม่ให้สังเกตได้จากเล่มทะเบียนรถที่มีการระบุว่า ออกแทนเล่มสูญหาย ซึ่งรถที่ได้มาจากวิธีการไม่ถูกต้องจะไม่มีเล่มทะเบียนจริง ฉะนั้น ควรตรวจสอบให้ลึกลงไปว่าทำไมถึงไม่มีเล่มทะเบียนจริง และให้ตรวจเช็คที่หน้า 18 โดยรถยนต์ที่ถูกขโมยมาส่วนใหญ่จะมีการขอเปลี่ยนย้ายจังหวัด

พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า มิจฉาชีพมีลักษณะการทำงานและรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น ผู้ประกอบการให้เช่า รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ตลอดจนประชาชนผู้ครอบครองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต้องใช้ความระมัดระวัง ในการทำสัญญาเช่าหรือขาย ต้องทำการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนและความถูกต้องของคู่สัญญาให้ถี่ถ้วน ประกอบกับการสอบถามลักษณะและเงื่อนไขการใช้งานรถยนต์หรือรถจักรยายนต์ว่าใช้ในเขตพื้นที่ใดบ้างตาม ระยะเวลาและเงื่อนไขที่เหมาะสม ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่า และขอย้ำเตือนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะเป็นการ เอาเปรียบและกระทำความผิดในการเช่า ซื้อ หรือจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย การโอนย้ายหรือ ขอทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยใช้เอกสารปลอม หรือแก้ไขหมายเลขเครื่องยนต์ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึง 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]

นายกฯ โพสต์แสดงความยินดี “โอปอล-วิว” สร้างประวัติศาสตร์ไทย

ทำเนียบฯ 1 มิ.ย. – นายกฯ โพสต์แสดงความยินดีกับ “โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” สร้างประวัติศาสตร์นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนเเรกขึ้นมือ 1 โลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์แสดงความยินดีกับคุณโอปอล สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และคุณวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยที่ขึ้นมือ 1 โลกอย่างไม่เป็นทางการค่ะ ทั้ง 2 ข่าวใหญ่ในวันนี้สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของคุณโอปอล และคุณวิว ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จของทั้ง 2 ท่านในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เยาวชนและคนไทยค่ะ 🇹🇭❤️#โอปอลสุชาตา #วิวกุลวุฒิ #MissWorldThailand .-314-สำนักข่าวไทย

ซ้อมเสมือนจริง

ผบ.กกล.บูรพา ตรวจความพร้อมรบ เสริมศักยภาพป้องกันชายแดน

สระแก้ว 1 มิ.ย. – ซ้อมเสมือนจริง “ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรบ เพื่อให้พร้อมรองรับภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บ้านหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.พล.ร.2 รอ. ในฐานะ ผบ.กกล.บูรพา เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบตามระเบียบปฏิบัติประจำของหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบยานเกราะ (ร.12 พัน.2 รอ.) หลังจากที่ได้ดำเนินการ เคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าสู่ที่รวมพล บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ปฏิบัติภารกิจของหน่วยเมื่อได้รับมอบจากหน่วยเหนือ โดย ผบ.พล.ร.2รอ./ผบ.กกล.บูรพา ได้เน้นย้ำสั่งการในเรื่องการรักษาระเบียบวินัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ การแสดงภาพลักษณ์ที่ดี แสดงกำลังให้ประชาชนในพื้นที่ เชื่อมั่นในการรักษา ปกป้อง ประเทศชาติ และให้ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชา ในสายการบังคับบัญชาของตนเอง ในทุกระดับ พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ผสมผสานกับความเป็นผู้นำ และให้เตรียมความพร้อมของกำลังพลที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับภารกิจจากหน่วยเหนือ.-313-สำนักข่าวไทย