ปราจีนบุรี 14 ธ.ค.- พฐ.ตรวจรถ “โกทร” หาวิถีกระสุนเอี่ยวคดียิงดับ “สจ.โต้ง” หรือไม่ ขณะที่เตรียมเรียกตำรวจอย่างน้อยอีก 3 นาย สอบปมสังหาร
เหตุยิงกันภายในบ้านใหญ่ปราจีนบุรี ของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นบิดาของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ เป็นเหตุให้นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของนายสุนทร วิลาวัลย์ ถูกยิงจนเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 11 ธ.ค.67 ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมมือปืนที่ลงมือไว้ได้ 3 คน ล้วนเป็นลูกน้องของนายสุนทร วิลาวัลย์
ล่าสุดที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานสอบสวนได้มีการเรียกประชุมตำรวจกองปราบปรามฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ที่ได้มีการลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสอบสวนของกองปราบปรามกับตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้มีการเรียก “หมวดใจ” 1 ใน 5 ตำรวจ ชุดดูแลความปลอดภัย สจ.โต้ง และคนที่อยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเครียดตลอดทั้งคืน และในช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานสอบสวนจะมีการประสานให้ตำรวจอีก 3 นาย เข้ามาพบ เพื่อให้ข้อมูลในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนบุคคลอื่น ๆ อาทิ สจ.ตุ๋ย, รองอุ๊ คาดว่าจะถูกเรียกตัวไปสอบภายหลัง
ส่วนความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 4 ปาก คือ ลูกเขยของโกทร หลานโกทร และแม่บ้าน ที่ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง โทรไปให้ไปช่วยดู สจ.โต้ง รวมถึงแม่บ้านอีก 1 คน แต่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนตำรวจที่อยู่ในกลุ่มดูแลความปลอดภัยให้ สจ.โต้ง พบว่ามีตำรวจ 4 นาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่าจะมีใครกระทำความผิดเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งยืนยันว่าการทำคดีจะทำตามข้อเท็จจริงไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบรถอัลพาร์ดของโกทร ที่ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง หลังจากพบร่องรอยบริเวณไฟท้ายด้านขวาแตกเป็นรูขนาดใหญ่ จึงจะนำมาเปรียบเทียบกับวิถีกระสุน เพื่อหาว่ารอยแตกดังกล่าวเกิดจากวิถีกระสุนหรือเกิดจากอะไร รวมถึงเพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ร่องรอยต่าง ๆ เพิ่มเติมภายในรถด้วย .-สำนักข่าวไทย