‘สว.อลงกต’ พาญาติเหยื่อรถบัสไฟไหม้ ร้องบก.ปปป.

กทม. 25 ต.ค.- “สว.อลงกต” พาครอบครัวเหยื่อรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ร้อง บก.ปปป. ขอให้ตรวจสอบเเละฟ้องร้อง 4 หน่วยงานภาครัฐ


ศูนย์รับเเจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 สมาชิกวุฒิสภา พาครอบครัวผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุรถบัสทัศนศึกษาเกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมายื่นหนังสือถึงกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ตรวจสอบเเละฟ้องร้อง 4 หน่วยงานภาครัฐ หาคนผิดจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว

นายอลงกต กล่าวว่า วันนี้พาผู้ปกครองและครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุรถบัสไฟไหม้มายื่นหนังสือให้ บก.ปปป. ตรวจสอบ 4 หน่วยงานได้เเก่ 1.ขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี 2.วิศวกรหรือช่างที่ตรวจสอบคุณภาพของถังแก๊สในรถบัส 3.สำนักงานพลังงานจังหวัดสิงห์บุรี ถึงการติดถังแก๊สบนรถบัสคันเกิดเหตุที่เกินกฎหมายกำหนดนั้นสอบอยู่เเล้วหรือไม่ และ 4.กรมอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี ว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดในหน่วยงานเหล่านี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 หรือไม่


โดยต้องการให้เอาผิดทั้งทางอาญาเเละทางแพ่ง ซึ่งหน่วยงาน เหล่านี้ไม่เคยติดต่อมาหาผู้ปกครองหรือครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเลย หากทางบก.ปปป.ได้รับเรื่องเเละทำสำนวนเสร็จสิ้นทางตนเเละทีมทนายความจะเป็นผู้ประสานงานในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้เเก่ผู้ปกครองหรือครอบครัว

นายอลงกต กล่าวว่า เบื้องต้นตอนนี้ทางผู้ปกครองหรือครอบครัวได้รับเงินเยียวยาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) สำนักงานกระทรวงยุติธรรมจังหวัด ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ส่วนกรณีคนที่บาดเจ็บนั้นได้ประมาณคนละ 1-2 ล้านบาท

ด้านนายมหาโภคัย บิดาของ ด.ช.ณัฐพงศ์ ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า ในส่วนของการเยียวยาเบื้องต้น ได้รับการดูแลจากทางภาครัฐในบางส่วน ซึ่งรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณ แต่การเยียวยาทางด้านจิตใจไม่เคยผ่อนลงเลยยังมีความรู้สึกเศร้าโศกอยู่ตลอด จึงอยากขอให้ทุกหน่วยงานช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความเป็นธรรมให้กับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะตนและผู้ปกครองคนอื่นๆ เป็นเพียงแค่ประชาชนธรรมดาไม่มีอำนาจใดๆ .419 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง