กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – ตร.สืบนครบาล ทลายแก๊งโจรกรรมและสวมทะเบียนรถจักรยานยนต์พร้อมของกลางจำนวนมาก
กำลังตำรวจสืบนครบาลและชุดสืบ Top G กว่า 40 นาย บุกเข้าค้นชุมชน ม.5 ถ.กำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พร้อมหมายจับนายสุรพงษ์ อายุ 33 ปี และนายบุญคงคา อายุ 43 ปี ข้อหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมทั้งยึดของกลางหลายรายการ อาทิ รถจักรยานยนต์ 6 คัน, โครงรถจักรยานยนต์ 6 คัน, ป้ายรถจักรยานยนต์ 7 แผ่น, ใบคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 12 เล่ม, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย, โทรศัพท์ Apple iphone 12 pro max, ชุดตอกเลข จำนวน 22 ชิ้น
สืบประวัติพบนายบุญคงคา เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ เมื่อปี 2551 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ, คดีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน, คดีร่วมกันลักทรัพย์ จยย. เมื่อปี 2562 ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ และนายสุรพงษ์ เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ เมื่อปี 2557 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน
คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนหาข่าว กรณีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และนำรถที่ขโมยมาทำการส่งขาย และบางคันนำมาตอกเลขตัวถังใหม่เพื่อสวมทะเบียนรถคันอื่นก่อนส่งขายภายในประเทศ ตลอดจนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จนสืบทราบว่าบ้าน หมู่ 5 ถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งพักพิงชำแหละรถและเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดในชุมชนย่านบางแค โดยในแต่ละวันจะมีนายบุญคงคา ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับสั่งการให้สมาชิกในแก๊งออกตระเวน ทำการลักขโมยรถจักรยานยนต์ ซี่งจากการสืบสวนพบว่า ในบางคืนมีการตระเวนลักรถและนำมาสวมทะเบียนมากถึง 4 คัน โดยจะมีลักษณะการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนเป็นทอดๆ เพื่อหลบเลี่ยงและยากต่อการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยจะนำรถจักรยานยนต์มาทำการรื้อชำแหละรถและตอกเลขตัวถังใหม่ โดยใช้ทะเบียนรถที่ประมูลหรือรับซื้อ หรือรับจำนำมาได้แล้วทำการสวมทะเบียนกับรถคันที่ถูกโจรกรรมมา โดยคนอื่นๆ ที่ทำหน้าที่รับรถตามที่สั่งการจะได้ค่าจ้าง ครั้งละประมาณ 1,500-2,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง แต่ในส่วนพฤติกรรมการโจรกรรมรถผู้ถูกจับให้การภาคเสธว่าเคยทำมาก่อนแต่ได้เลิกทำแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และจากการสืบสวนขยายผลและตรวจสอบข้อมูล รวมถึงเส้นทางการเงินของนายบุญคงคา พบว่ายังมีหลักฐานบ่งชี้ว่ายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ อีกทั้งยังพบข้อมูลการติดต่อพูดคุยกับผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนมาก ซึ่งพบความเชื่อมโยงไปถึงร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และบริษัทขนส่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลและดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายนี้ต่อไป.-420- สำนักข่าวไทย