ตร.สอบสวนกลาง ทลายเครือข่ายนมผงเวียดนาม อ้างสรรพคุณเกินจริง

13 มิ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ อย. ทลายเครือข่ายนายทุนเวียดนาม เปิด 11 เว็บไซต์หลอกขายนมผงปลอม โอ้อวดสรรพคุณลวงโลก เกินจริง ยึดของกลางมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท


ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แถลงผลหลังเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบแรงงานลาวและเมียนมา 6 คน กำลังแพ็กผลิตภัณฑ์เพื่อรอจำหน่าย เบื้องต้นยึดของกลางผลิตภัณฑ์อาหารยาและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ รวม 41 รายการ กว่า 20,000 ชิ้น แบ่งเป็นนมผงยี่ห้อต่างๆ 8 ยี่ห้อ จำนวน 12,625 กระปุก อาหารเสริมสำหรับเด็ก 1,776 ชิ้น วิตามินที่ไม่มีเลขสารบบอาหาร 95 ชิ้น ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา 3,660 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท

คดีนี้สืบเนื่องจากปัจจุบันพบผลิตภัณฑ์สุขภาพในไทยกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและมีการแพร่ระบาดของผลิตภัณฑ์สุขภาพปลอม อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง มีแนวโน้มมากขึ้น จึงสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวมีนายทุนชาวเวียดนามอยู่เบื้องหลัง นำผลิตภัณฑ์เข้าทางฮานอย ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง 11 เว็บไซต์ โดยมีการกล่าวอ้างอวดสรรพคุณเกินจริง เช่น เมื่อบริโภคผลิตภัณฑ์แล้วจะทำให้ลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ 26 เท่า พัฒนาภูมิต้านทางในเด็ก ทำให้สูงขึ้น 3-5 เซนติเมตร และยังกล่าวอ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA (องค์การอาหารและยา) สหรัฐอเมริกา ขายดีเป็นอันดับ 1 ในนิวซีแลนด์


โดยการจำหน่ายจะไม่ขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยม แต่จะขายภายในเว็บไซต์ตัวเอง ที่มีฐาน IP อยู่ต่างประเทศ โดยการสั่งซื้อจะให้ลูกค้าที่สนใจกรอกชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์กลับมาเพื่อเสนอโปรโมชั่น และเมื่อลูกค้าซื้อไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ จะมีการโทรศัพท์มาติดตามผล และเสนอโปรโมชั่นให้อีก ซึ่งจะขายในราคา 1,090-1,190 บาท มียอดขายเดือนละ 3,000-6,000 ออเดอร์ ส่วนผู้เช่าโกดังที่เป็นชาวเวียดนามได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว หลังจากนี้จะส่งของกลางทั้งหมดไปตรวจหาสารที่เป็นอันตราย สำหรับนายทุนมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ร.บ.ยา และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

ส่วนแรงงานต่างด้าว 6 คน พบเดินทางเข้าประเทศถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา เช่น ร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

ด้านรองเลขาธิการ อย. บอกว่า การตรวจพบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการพบจากการโฆษณาผ่านออนไลน์ที่โฆษณาเกินจริง ไม่มีฉลาก อย. หรือฉลากภาษาไทย อีกทั้งยังขายในเว็บไซต์ส่วนตัว ไม่มีวางขายในประเทศหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบ โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ


นอกจากนี้ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย จะลอกเลียนแบบชื่อกับผลิตภัณฑ์ที่ขายตามท้องตลาดที่เป็นที่ยอดนิยม อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและหลงเชื่อ พร้อมแนะนำประชาชนให้ดูและ เลือกซื้อให้สังเกตยาต้องมีเลขทะเบียนตำรับ อาหารต้องมีเลขสารบบอาหารหรือเครื่องหมาย อย. และย้ำว่าไม่มีอาหารหรืออาหารเสริมชนิดใดที่มีสรรพคุณบำบัด บรรเทา รักษาโรค ขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าหลงเชื่อข้อมูลเท็จ โฆษณาเกินจริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”