จับเครือข่ายสมุน “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” ยึดไอซ์พันกิโล

กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แถลงจับเครือข่ายสมุน “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” พ่อค้ายารายใหญ่ หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ยึดของกลางไอซ์พันกิโล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 และคณะทำงาน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “ทีมโกดังยาเสพติด อาร์ท ต่ำเอี่ยว” นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดของนายอภิวิชญ์ หรืออาร์ท ต่ำเอี่ยว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับและหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านได้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บพักไว้และกระจายให้กับกลุ่มผู้รับซื้อในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย คือ กทม. และโดยรอบปริมณฑล อีกทั้งจากการสืบสวนทราบว่านายดิเรก หรือแด๊ก (สมุนของนายอาร์ท) มีหน้าที่จัดทีมลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายดิเรก สมุนของนายอาร์ท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนทราบว่านายดิเรกได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Fortuner สีเทา เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามจนกลุ่มของนายดิเรกทราบว่าได้ถูกติดตาม จึงแยกย้ายกันหลบหนี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามรถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 ซึ่งเป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดคันดังกล่าวได้ทัน บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการ ข้างโรงเรียนนายร้อย จปร. หมู่ที่ 1 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ทำให้ได้พบกับนายสมภพ หรือเล็ก เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบ ก่อนจะตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนัก 1 ตัน หรือ 1,000 กก. มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท 2.รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 จำนวน 1 คัน ซึ่งใช้ในการลำเลียงยาเสพติด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายสมภพ คนขับรถลำเลียงยาเสพติดกระทำผิดฐาน ร่วมกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำขยายผล นายสมภพ (คนขับลำเลียงยาเสพติด) ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายดิเรกให้ขับรถลำเลียงยาเสพติดไปตามเส้นทางที่นายดิเรกแจ้งไว้ โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 50,000 บาทเมื่อเสร็จงาน พร้อมยอมรับว่าเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มผู้ค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับของกลางที่บรรจุไอซ์นั้น จะพบว่าเป็นหีบห่อสีเขียวคล้ายถุงบรรจุซองผงชาสำเร็จรูป แต่จริงๆ ก็คือผงไอซ์ อีกทั้งจากข้อมูลเชิงลึกทราบว่ากลุ่มขบวนการลูกน้องนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว มีความคิดที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการจับกุมเกิดขึ้น ตนจึงได้บอกชุดปฏิบัติการว่าในกรณีที่เราเข้าจับกุมตัวหรือตรวจค้น แล้วถูกทำร้ายร่างกาย อาจมีความจำเป็นต้องป้องกันชีวิตของตัวเอง ซึ่งต้องใช้มาตรการรุนแรง ดังนั้น ตนจึงขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้าไปร่วมขบวนการนี้ขอให้ถอนตัวแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามจับกุม และขอย้ำว่าในการรับว่าจ้างขนส่งลำเลียงอะไร ขอให้ตรวจสอบให้ดีถี่ถ้วนและต้องมั่นใจว่าไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมายหรือขนสินค้าผิดกฎหมาย หากทำโดยรู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขนลำเลียงยาเสพติดก็ย่อมมีความผิดร่วมด้วย ได้เงินค่าจ้างหลักหมื่น ไม่คุ้มกับอัตราโทษ

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ใครก็ตามที่ให้ที่พักพิงหลบซ่อนแก่ลูกน้องของนายอาร์ท จะต้องมีความผิดร่วมด้วย และขอเตือนเยาวชนที่จะไปเข้าร่วมขบวนการลำเลียงยาเสพติด ขออย่าไปข้องเกี่ยว ส่วนบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้ เราพร้อมให้ความช่วยเหลือและปกปิดแหล่งที่มาของข่าว


ด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า สำหรับการติดตามสะกดรอยจับกุมขบวนการเครือข่ายนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เราได้รับข้อมูลมาเกือบปีแล้ว ลักษณะของการกระทำความผิด คือ คนสั่งการอยู่นอกประเทศ (นายอาร์ท) และสั่งให้สมุนของตัวเองในประเทศไทยดำเนินการให้ อย่างไรก็ตาม ข่าวความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนายอาร์ททั้งหมดเราทราบตัวบุคคลแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด และจะเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป หากประชาชนท่านใดมีเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ ส่วนข้อมูลเชิงลึกว่าในจำนวนไอซ์ ล็อต 1 ตันนี้ได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นการส่งไปขายยังภาคตะวันออก ยังไม่พบการส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย