จับเครือข่ายสมุน “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” ยึดไอซ์พันกิโล

กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แถลงจับเครือข่ายสมุน “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” พ่อค้ายารายใหญ่ หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ยึดของกลางไอซ์พันกิโล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 และคณะทำงาน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “อาร์ท ต่ำเอี่ยว” พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “ทีมโกดังยาเสพติด อาร์ท ต่ำเอี่ยว” นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดของนายอภิวิชญ์ หรืออาร์ท ต่ำเอี่ยว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับและหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านได้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บพักไว้และกระจายให้กับกลุ่มผู้รับซื้อในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย คือ กทม. และโดยรอบปริมณฑล อีกทั้งจากการสืบสวนทราบว่านายดิเรก หรือแด๊ก (สมุนของนายอาร์ท) มีหน้าที่จัดทีมลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายดิเรก สมุนของนายอาร์ท ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนทราบว่านายดิเรกได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Fortuner สีเทา เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามจนกลุ่มของนายดิเรกทราบว่าได้ถูกติดตาม จึงแยกย้ายกันหลบหนี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามรถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 ซึ่งเป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดคันดังกล่าวได้ทัน บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการ ข้างโรงเรียนนายร้อย จปร. หมู่ที่ 1 ต.พรหมณี อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ทำให้ได้พบกับนายสมภพ หรือเล็ก เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบ ก่อนจะตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนัก 1 ตัน หรือ 1,000 กก. มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท 2.รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ ISUZU สีขาว ทะเบียน 1 ฒณ 6134 จำนวน 1 คัน ซึ่งใช้ในการลำเลียงยาเสพติด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่นายสมภพ คนขับรถลำเลียงยาเสพติดกระทำผิดฐาน ร่วมกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำขยายผล นายสมภพ (คนขับลำเลียงยาเสพติด) ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายดิเรกให้ขับรถลำเลียงยาเสพติดไปตามเส้นทางที่นายดิเรกแจ้งไว้ โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 50,000 บาทเมื่อเสร็จงาน พร้อมยอมรับว่าเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มผู้ค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับของกลางที่บรรจุไอซ์นั้น จะพบว่าเป็นหีบห่อสีเขียวคล้ายถุงบรรจุซองผงชาสำเร็จรูป แต่จริงๆ ก็คือผงไอซ์ อีกทั้งจากข้อมูลเชิงลึกทราบว่ากลุ่มขบวนการลูกน้องนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว มีความคิดที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการจับกุมเกิดขึ้น ตนจึงได้บอกชุดปฏิบัติการว่าในกรณีที่เราเข้าจับกุมตัวหรือตรวจค้น แล้วถูกทำร้ายร่างกาย อาจมีความจำเป็นต้องป้องกันชีวิตของตัวเอง ซึ่งต้องใช้มาตรการรุนแรง ดังนั้น ตนจึงขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะเข้าไปร่วมขบวนการนี้ขอให้ถอนตัวแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามจับกุม และขอย้ำว่าในการรับว่าจ้างขนส่งลำเลียงอะไร ขอให้ตรวจสอบให้ดีถี่ถ้วนและต้องมั่นใจว่าไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมายหรือขนสินค้าผิดกฎหมาย หากทำโดยรู้ทั้งรู้ว่าเป็นการขนลำเลียงยาเสพติดก็ย่อมมีความผิดร่วมด้วย ได้เงินค่าจ้างหลักหมื่น ไม่คุ้มกับอัตราโทษ

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ใครก็ตามที่ให้ที่พักพิงหลบซ่อนแก่ลูกน้องของนายอาร์ท จะต้องมีความผิดร่วมด้วย และขอเตือนเยาวชนที่จะไปเข้าร่วมขบวนการลำเลียงยาเสพติด ขออย่าไปข้องเกี่ยว ส่วนบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ได้ เราพร้อมให้ความช่วยเหลือและปกปิดแหล่งที่มาของข่าว


ด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า สำหรับการติดตามสะกดรอยจับกุมขบวนการเครือข่ายนายอาร์ท ต่ำเอี่ยว เราได้รับข้อมูลมาเกือบปีแล้ว ลักษณะของการกระทำความผิด คือ คนสั่งการอยู่นอกประเทศ (นายอาร์ท) และสั่งให้สมุนของตัวเองในประเทศไทยดำเนินการให้ อย่างไรก็ตาม ข่าวความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนายอาร์ททั้งหมดเราทราบตัวบุคคลแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด และจะเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป หากประชาชนท่านใดมีเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ ส่วนข้อมูลเชิงลึกว่าในจำนวนไอซ์ ล็อต 1 ตันนี้ได้มีการส่งออกไปยังต่างประเทศหรือไม่นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นการส่งไปขายยังภาคตะวันออก ยังไม่พบการส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย