“วุ้นเส้น-หนิง” แถลงหลังจับผู้ตัดต่อภาพไปใช้โฆษณาขายเครื่องสำอาง

สอท. 4 เม.ย. -“วุ้นเส้น-หนิง” แถลงร่วมกับ ตร.ไซเบอร์ หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพตัดต่อภาพไปใช้โฆษณาขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายหลายล้าน


พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง.ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.กฤติน ตปสิโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 พร้อมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. ตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมทั้งสิ้น 4,491 ชิ้น มูลค่ากว่าล้านบาท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค 67 น.ส.วิริฒิพา หรือ วุ้นเส้น และ น.ส.ปณิตา หรือ หนิง 2 ดารานักแสดง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บช.สอท.1 กรณีมีเพจปลอมแอบอ้างนำวิดีโอไปตัดต่อ บิดเบือนข้อเท็จจริงในการโฆษณาสินค้าและผลิตภัณฑ์ และ อย.ได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าใช้เซรั่มเถื่อนดังกล่าว ซึ่งตรวจสอบไม่พบฉลากภาษาไทย และไม่พบการจดแจ้งในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ต่อมาจากการสืบสวนร้านค้าออนไลน์ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายทางสื่อออนไลน์ จนทราบว่าร้านค้าออนไลน์ มีพฤติการณ์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าวทางสื่อออนไลน์ จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงสมุทรปราการ เพื่อทำการตรวจค้น ณ สถานที่ซุกซ่อนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายของ ร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายทางสื่อออนไลน์ ในวันที่ 2 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นและกำลังเจ้าหน้าที่​ อย. ได้ร่วมกันทำการตรวจค้น ตามหมายค้นศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 14/2567 ลงวันที่ 1 เม.ย. 67 ณ คลังสหไทย เลขที่ 88/73 ม.32 ซ.ที่ดินไทย ถ.เทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี ​จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมาย และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายชนิดอื่นอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำการยึดของกลางทั้งหมด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ และเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป โดยหากสืบพบเจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่แท้จริง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ.๒๕๕๘ ดังนี้ ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย” ระวางจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ภก.วีระชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอขอบคุณตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) (สอท.1) ที่ร่วมกันตรวจค้นโกดัง จากการได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นดารากรณีถูกนำคลิปวีดีโอแนะนำเครื่องสำอางชื่อการค้า SEWA ไปตัดต่อภาพ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบแล้ว พบการฝ่าฝืนกฎหมาย ได้แก่ เครื่องสำอาง ที่ฉลากไม่แสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งหรือแสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งและไม่แสดงฉลากเป็นภาษาไทย จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ล้วนต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อนผลิต นำเข้า และจำหน่าย ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว สำหรับยา และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่สามารถซื้อทางออนไลน์ได้ ต้องซื้อจากร้านยาหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น เว้นแต่เป็นยาสามัญประจำบ้าน

พ.ต.อ.ปรีดา ได้ระบุว่าเบื้องต้นยังไม่มีเจ้าของร้านค้าออนไลน์รายใดแสดงตนว่าเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งทำการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวของทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหา ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี และจะเร่งขยายผลทำการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายดังกล่าว ในรายอื่นๆ ต่อไป

ด้าน น.ส.ปณิตา เปิดเผยว่า ในแต่ละขั้นตอนของการทำแบรนด์ มีความซับซ้อนและยากมากที่นำออกมาจำหน่าย ทางแบรนด์ขอ อย. ถึง 3 ครั้ง หากตนไม่ตามเรื่อง เรื่องนี้ก็จะหายเงียบไป ดังนั้นจึงต้องฝากทางผู้ใหญ่ให้ตรวจสอบ เพราะยังมียี่ห้อแบรนด์อื่นที่มีการนำเข้าผิดกฎหมายอีกเช่นกัน อยากให้ผู้กระทำผิดหยุดการกระทำดังกล่าว และหากแบรนด์ไหนประสบปัญหาเช่นเดียวกับแบรนด์ของตน อยากให้ออกมาร่วมมือกันเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป


ด้าน น.ส.วิริฒิพา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้สินค้าปลอมที่อยู่ในตลาด ยังมีการใช้คลิปโฆษณาของแบรนด์ตน เพื่อโปรโมทสินค้าปลอม การทำธุรกิจกว่าจะได้การนำเข้าส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อแบรนด์ตนและแบรนด์อื่นๆ ในความโชคดีที่พวกเราเป็นบุคคลหน้าสื่อ เรื่องจึงไม่เงียบ ต่อไปนี้ก็จะตามเรื่องต่อไปจนถึงต้นตอ เพราะสร้างความเสียหายให้ตน รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์.-416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย