ทลายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติกลางเมืองคอนฯ

29 มี.ค. – ตำรวจ, กสทช. และดีเอสไอ สนธิกำลังทลายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ กลางเมืองคอนฯ จับคนร้ายต่างชาติได้กว่า 60 คน


หลังมีการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ มาตั้งฐานอยู่ทำงภาคใต้ โดยพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติในเขตพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวต่างชาติได้ จำนวน 51 คน และชาวไทย 12 คน รวม 63 คน ยึดของกลาง ประกอบด้วย 1. คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง 2.มือถือและซิมผี 854 เครื่อง 3. Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง 4 .บัญชีม้า 342 เล่ม ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ, พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พ.ร.บ.โทรคมนาคมฯ, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และประกาศ กสทช. เรื่อง การยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการฯ และจะมีการขยายผลการกระมำผิดไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์อย่างเด็ดขาด

โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นพร้อมกัน 3 จุด ในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พบรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ 3 แห่ง ใกล้เคียงและเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย โรงแรมและบ้านพัก และขยายผลไปยังโกดังจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง ในพื้นที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธธรมราช พบผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมาก ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ โดยในครั้งนี้ทางตำรวจจีนและญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมตรวจสอบการกระทำผิดเพื่อนำไปสู่การขยายผลการกระทำผิดในประเทศจีนและญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้เป็นการตอบสนองนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.ต.อ.กิตต์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการ ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


จากการตรวจสอบข้อมูลการสื่อสารและการใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเข้าจับกุม รวมทั้งการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบการซักถาม หลังการตรวจค้นจับกุมพบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการติดต่อ หลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ โดยวิธีการหนึ่งที่คนร้ายใช้ คือ จะทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านช่องทาง Social media โดยเฉพาะแอปฯ Telegram ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตสื่อกลาง ซึ่งคนร้ายจะเชิญชวนเหยื่อให้ร่วมแนะนำ review โรงแรม, รีสอร์ท หรือที่พักต่างๆ แล้วแจ้งว่าได้รับรางวัลตอบแทนเป็นตั๋วเครื่องบินหรือที่พักฟรี และให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ พร้อมส่งข้อความแนบลิงค์ให้กดยืนยันเพื่อรับรางวัล เมื่อเหยื่อหลงกลกดลิ้งค์ก็จะเป็นการเริ่มการติดตั้งโปรแกรมเข้ามือถือ แล้วคนร้ายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ก่อนหน้านี้ไปกระทำการเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคาร mobile banking และหลอกดูดเงินเหยื่อในลำดับถัดไป หรือใช้วิธีการหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนด้วยวิธีต่างๆ ในการนี้ชุดจับกุม ทั้งตำรวจ กสทช.และ ดีเอสไอ ได้ทำการรื้อถอนและตรวจยึดอุปกรณ์ทำงเทคโนโลยี, คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, รวมทั้งซิมการ์ด (ซิมผี) มากกว่า 1,300 ซิม ซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนหรือลงทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมายและประกาศ กสทช.กำหนด ไปตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป.-412- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด