จับเพิ่มอีก 1 คน พนักงานสินเชื่อลอบขายข้อมูลลูกค้า

กทม. 15 ก.พ.-ตำรวจไซเบอร์ จับเพิ่มอีก 1 คน พนักงานสินเชื่อสถาบันการเงินเอกชน ลอบขายข้อมูลลูกค้าชั้นดี ขายถูกๆ ชื่อละ 1 บาท สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำหลายหมื่นบาทต่อเดือน พบบางส่วนถูกขายไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ สคส., กองบัญชาการตารวจสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. และสำนักงานคณะกรรมการรักษาความ มั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. แถลงขยายผลการตรวจสอบคดีผู้กระทำผิดในการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบใน ซึ่งครั้งนี้เป็นปฏิบัติการ EP.7 จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด 9 คน และอยู่ระะหว่างติดตามจับกุม อีก 2 คน

โดยเป็นการบูรณาการขยายผลจากผู้กระทาผิดตั้งแต่ EP.1 จนถึง EP.7 ซึ่งสืบทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อสถาบันการเงินภาคเอกชนแห่งหนึ่ง ทราบชื่อคือ นายสุวรรณ อายุ 42 ปี มีพฤติกรรมลักลอบนาข้อมูลลูกค้า ของสถาบันการเงินของตนเองมาดัดแปลง แก้ไข และนำไปจำหน่ายต่อให้กลุ่มที่สนใจ เช่น ตัวแทนสินเชื่อ, ตัวแทนประกัน ซึ่งบางกรณีตกไปอยูในมือของมิจฉาชีพแก๊ง Call Center


ตำรวจ สอท.5 รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสุวรรณ ในความผิดฐาน “ล่วงรู้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้นาไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น, ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ” ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2560

จากนั้นเข้าตรวจค้นจับกุมนายสุวรรณ ที่บ้านพักในตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พบของกลาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, คอมพิวเตอร์พกพา และโทรศัพท์มือถือที่จะไฟล์ภาพข้อมูลของลูกค้าและประชาชนที่ได้จากการซื้อขายข้อมูลมาจากบุคคลอื่น และข้อมูลของลูกค้าที่เก็บไว้

นายสุวรรณ ยอมรับว่า เป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อในการประสานงานกับแม่ค้า จะมีการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ส่วนนึงโดยทำการจดบันทึกและจดจำเป็นไฟล์เอกสารจะนำไปจำหน่ายต่อ โดยไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในสุวรรณ จะทยอยนำรายชื่อลูกค้าครั้งละ 3000-5000 รายชื่อ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเครดิตดีไปจำหน่ายต่อในราคารายชื่อละ 1 บาท สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน โดยทำมาแล้วเกือบ 2 ปี


ตำรวจจึงได้ประสานกับ สคส. ให้ตรวจสอบหาข้อมูลที่รั่วไหล เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน และสืบสวนขยายผลผู้ร่วมกระทำผิดร่วมกับผู้ต้องหารายนี้

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดเผยว่า สถิตินับตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ PDPC Eagle Eye ได้ตรวจพบการเผยแพรข้อมูลส่วนบุคคลประชาชนบนเว็บไซต์ของหน่วยงานต่างๆ อย่างเกินความจำเป็นหรือไม่มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม จำนวน 5,869 หน่วย จากการตรวจสอบทั้งหมดกว่า 2 หมื่นหน่วยงาน ซึ่งพบว่าในนั้นมีร้อยละ 90 ที่เป็นหน่วยงานราชการ จึงได้มีการเตือนและแก้ไขแล้ว มีการตรวจพบการประกาศซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก และได้มีการปิดกั้นแล้ว จำนวน 54 เรื่อง อีกทั้งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีกรณีที่ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกผู้กระทำความผิด 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา.-412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

ตร.ค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ เปิดบริษัท เบื้องหลังฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพักหรูย่านราชพฤกษ์ พบมีการเปิดเป็นบริษัทอำพราง เบื้องหลังใช้ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวแนะนำ

ชุมชนเทือกเขาหลวงเสียหายหนัก วอนเร่งช่วยด่วน

หลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชุมชนบริเวณเทือกเขาหลวง เสียหายหนักจากน้ำป่า ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยด่วน

ขวัญใจสวนเสือพัทยา “สุดเขต” ลูกเสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊ว

น้องสุดเขต เสือโคร่งสีทองหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก กลายเป็นขวัญใจดวงใหม่ “หน้าแบ๊ว ขี้เล่น” อายุเพียง 11 เดือน

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ