กรุงเทพ 26 ก.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดซื้อขายกองทุนอีทีเอฟ ประเภทใหม่ Leveraged และ Inverse ETF โดย “2X01BSET50” เปิดตลาด + 0.05 บาท “1I01BSET50” เปิดตลาด -0.03 บาท และ “2I01BSET50″เปิดตลาด -0.06 บาท
นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดซื้อขายกองทุน ETF ประเภทใหม่ Leveraged และ Inverse ETF ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนหรือบริหารจัดการความเสี่ยงพอร์ตในระยะสั้น ซึ่งถือเป็นเปิดการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย และได้เริ่มการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้วในวันที่ 26 ก.ย.นี้ ซึ่ง BCAP ได้จัดตั้งและเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยกองทุนเปิดบีแคป เซ็ท 50 เดย์ลี่ เลเวอเรจ อีทีเอฟ (2X) ชื่อย่อ “2X01BSET50″ราคา IPO อยู่ที่ 5.00 บาท เปิดตลาดราคา 5.05 บาท + 0.05 บาทหรือ +1.00%, กองทุนเปิดบีแคป เซ็ท 50 เดย์ลี่ อินเวิร์ส อีทีเอฟ (-2X) ชื่อย่อ ”2I01BSET50“ ราคา IPO อยู่ที่ 5.00 บาท เปิดตลาดราคา 4.94 บาท -0.06 บาท หรือ -1.20% และ กองทุนเปิดบีแคป เซ็ท 50 เดย์ลี่ อินเวิร์ส อีทีเอฟ (-1X) ชื่อย่อ ”1I01BSET50“ราคา IPO อยู่ที่ 5.00 บาท เปิดตลาดราคา 4.97 บาท -0.03 บาทหรือ -0.60%
Leveraged และ Inverse ETF หรือ L&I ETF เป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและกลยุทธ์ในการลงทุน โดย Leveraged ETF จะเป็น ETF ที่ให้ผลตอบแทนไปทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง และเป็น “ตัวเพิ่มกำไร” โดยให้ผลตอบแทนเป็นจำนวนเท่าของผลตอบแทนรายวันของดัชนีอ้างอิง ซึ่งเหมาะกับกรณีที่คาดว่าตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น

ส่วน Inverse ETF จะเป็น ETF ที่ให้ผลตอบแทนไปทางตรงข้ามกับดัชนีอ้างอิง ทำหน้าที่เป็น “ตัวเสริมพอร์ต” ในการสร้างโอกาสการทำกำไรหรือใช้ป้องกันความเสี่ยง ในกรณีที่คาดว่าทิศทางตลาดจะปรับลง โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกอัตราทดหรืออัตราทวีคูณของ ETF ให้เหมาะสมตามความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน
สำหรับ Leveraged และ Inverse ETF ที่จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งแรกนั้น จะมีจำนวน 3 กองทุน และอ้างอิงดัชนี SET50 Total Return Index (SET50 TRI) ออกโดย บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำกัด (BCAP) และมี บล.บัวหลวง เป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้ดูแลสภาพคล่อง
นางสาวรินใจ กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่หลักในการให้ความรู้ และ สร้างทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง การมี L&I ETF จึงเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตลาดให้เป็น Ecosystem และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ในปัจจุบัน ETF เหล่านี้ เน้นที่ดัชนีเท่านั้น โดยเริ่มต้นเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์อ้างอิง หุ้นไทย เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ETF สามารถลงทุนสินทรัพย์ต่างประเทศได้ ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีผู้ออกผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงกับต่างประเทศตามมา การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ยังกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในหมู่ผู้ออกผลิตภัณฑ์ โดยผู้บริโภคจะเลือกจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น Tracking Error ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับตนเองได้
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ทีมวิเคราะห์ของบล.บัวหลวงคาดการณ์ว่าดัชนี SET Index ในปีหน้ามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้อีกราว 150 จุด จากฐานปัจจุบันที่ประมาณ 1,300 จุด ซึ่งการมีเครื่องมือที่หลากหลายอย่าง L&I ETF จะช่วยให้นักลงทุนคว้าโอกาสจากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ L&I ETFs แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1.Leveraged ETFs ซึ่งเป็น ETF ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มผลตอบแทนในช่วงตลาดขาขึ้น โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนรายวันแบบทวีคูณ เช่น 2 เท่า (2X) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มั่นใจในทิศทางตลาดและต้องการขยายโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของดัชนี เช่น หากดัชนี SET50 TRI รายวันปรับตัวขึ้น 1% กองทุนประเภทนี้ที่มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 2 เท่า ก็จะมีผลตอบแทนรายวันปรับขึ้นประมาณ 2% ในทางกลับกันหากดัชนี SET50 TRI รายวันปรับตัวลง 1% ผลตอบแทนรายวันของกองทุน Leveraged ETFs จะปรับลดลงประมาณ 2%
- Inverse ETFs เป็น ETF ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนรายวันในทิศทางตรงกันข้ามกับตลาด เช่น -1 เท่า (1I) หรือ -2 เท่า (2I) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างกำไรจากการคาดว่าตลาดจะปรับตัวลง หรือผู้ที่ต้องการใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เช่น หากดัชนี SET50 TRI รายวันปรับตัวลง 1% กองทุนประเภทนี้ที่มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนในทางตรงกันข้าม 2 เท่า ก็จะมีผลตอบแทนรายวันปรับขึ้นประมาณ 2% ในทางกลับกัน หากดัชนี SET50 TRI รายวันปรับตัวขึ้น 1% ผลตอบแทนรายวันของกองทุน Inverse ETFs จะปรับลดลงประมาณ 2%
นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ BCAP กล่าวเสริมว่า กองทุน L&I ETFs อ้างอิงดัชนี SET50 TRI จำนวน 3 กองทุน กองทุนที่เปิดเสนอขาย ประกอบด้วย
- กองทุน Leveraged ETF ในชื่อ “2X01BSET50” มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนแบบทวีคูณจำนวน 2 เท่าของผลตอบแทนรายวันของดัชนี SET50 TRI เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นใจว่า ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นที่ชัดเจน และต้องการสร้างผลตอบแทนรายวันที่สูงกว่าการลงทุนในดัชนีโดยตรง
- กองทุน Inverse ETF ในชื่อ “1I01BSET50” มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนตรงกันข้ามแบบ -1 เท่าของผลตอบแทนรายวันของดัชนี SET50 TRI เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นเมื่อมองว่าตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
- กองทุน Inverse ETF ในชื่อ “2I01BSET50” มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนตรงกันข้ามแบบ -2 เท่าของผลตอบแทนรายวันของดัชนี SET50 TRI เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มั่นใจว่าตลาดกำลังเข้าสู่ขาลงอย่างชัดเจนและต้องการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในภาวะตลาดขาลง
“กองทุน L&I ETFs อ้างอิงดัชนี SET50 TRI ชุดแรกของไทย จะช่วยตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่มองหาเครื่องมือการลงทุนที่ทันสมัยและสามารถใช้บริหารความเสี่ยงได้อย่างยืดหยุ่นในภาวะตลาดผันผวน อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่ากองทุนชุดนี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นสภาพคล่องและยกระดับตลาด ETF ของไทยให้เติบโตทัดเทียมกับต่างประเทศ” นางเมธ์วดี กล่าว.-513-สำนักข่าวไทย