“บิ๊กโจ๊ก” ขานรับคำสั่งนายกฯ-ผบ.ตร.สั่งจัดการเด็ดขาด “กลุ่มป่วนขบวนเสด็จ”  

กรุงเทพฯ 12 ก.พ.-“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้ สั่งจัดการเด็ดขาด “กลุ่มป่วนขบวนเสด็จ” เผยปัจจุบันขบวนเสด็จเป็นการใช้ทางร่วมกับประชาชน ไม่ได้ปิดกั้นการจราจร

กรณีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน ทะลุวัง และพวก มีพฤติกรรมพยายามขับรถแซงขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในขณะที่ขบวนกำลังแล่นผ่านทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวน


โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่กำกับดูแลความมั่นคงและจราจร ได้ออกมาเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาจะใช้มาตรา 116 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับกับกลุ่มคนที่พยายามคุกคามสถาบัน โดยตนสั่งให้พนักงานสอบสวนเข้าไปดูแลในเรื่องดังกล่าวแล้วและจะมีการเรียกตัวกลุ่มคนที่กระทำการไม่บังควรมาพบพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ทุกประเทศมี “กฎเหล็กว่าด้วยการอำนวยความสะดวกและการดูแลความปลอดภัยบุคคลสำคัญ” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ รวมถึงมีมาตรการการอำนวยความสะดวกการจราจรต่าง ๆ ให้กับรถฉุกเฉิน หรือโดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยบุคคลสำคัญในงานพิธี หรือพระราชพิธี หรือแม้แต่การประชุมต่าง ๆ รัฐบาลนานาประเทศล้วนมีมาตรฐานที่ถือเป็นหลักปฏิบัติอยู่แล้ว


สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันขบวนเสด็จเป็นการใช้ทางร่วมกับประชาชน ไม่ได้มีการปิดกั้นการจราจรเป็นเวลานาน แต่มีสัญลักษณ์ รถนำขบวนและปิดท้ายขบวนชัดเจน โดยมีการอารักขาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพราะเป็นสถาบันที่คนไทยให้ความเคารพสักการะ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทย “ผมในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมแบบนี้ได้” ดังนั้นตอนนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเข้าไปพิจารณาว่าจะสามารถดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำการมิบังควรเช่นนี้ในมาตราใดบ้าง เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 112 หรือไม่ หรือหากไม่เข้าก็จะเป็นการดำเนินการตามมาตรการ 116 ซึ่งเป็นการคุกคามบุคคลสำคัญ

ซึ่งในวันนี้ทาง สน.เจ้าของพื้นที่จะเรียกตัวผู้กระทำการอันมิบังควรเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วย เพื่อเป็นการดำเนินการตามคำสั่งการของนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ.-414- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย