ผบ.ตร.สั่งการ 4 มาตรการดูแลประชาชนช่วงตรุษจีน

6 ก.พ. – ผบ.ตร.สั่งการ 4 มาตรการให้ตำรวจดูแลประชาชน เพิ่มความเข้มงวด ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสในเทศกาล “ตรุษจีน 2567” เน้น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว เตือนภัยออนไลน์หลอกกดลิงก์แจกอั่งเปา มอบโชค ย้ำระมัดระวังอัคคีภัย – จุดประทัด


พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน 2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ วันที่ 8-11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อทำพิธีไหว้เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบรรพบุรุษ รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเฉลิมฉลอง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้กำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเพื่อป้องกันปราบปรามการก่อเหตุอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ และการอำนวยความสะดวกด้านจราจรแก่พี่น้องประชาชน

พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธร ภาค 1-9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ให้เร่งดำเนินการ 4 มาตรการตรุษจีน 2567 คือ 1.มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 2. มาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร 3.มาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัย และ 4.มาตรการประชาสัมพันธ์


“ผบ.ตร.กำชับ ให้ลงพื้นที่ตรวจตราอย่างเข้มงวด และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งใน วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว โดยให้เพิ่มความเข้มงวดในบริเวณตลาด ย่านการค้า ที่ประชาชนไปจับจ่ายสินค้าเพื่อนำไปประกอบพิธีเซ่นไหว้ และเฝ้าระวังเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ตามธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ร้านสะดวกซื้อ โรงทาน ขณะที่ในวันไหว้ ( 9 ก.พ.) ให้เน้นการเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย เตรียมแผนเผชิญเหตุ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร สำหรับวันเที่ยว ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ให้เพิ่มกำลังสายตรวจตรวจตราสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว ห้างร้าน ย่านการค้าที่ชาวไทยเชื้อสายจีนตั้งอยู่ ป้องกันการโจรกรรมรถ และลักทรัพย์ในเคหะสถาน เนื่องจากหลายแห่งปิดทำการออกไปท่องเที่ยว และจัดกำลังให้เพียงพอในการดูแลให้บริการประชาชน โดยเฉพาะด้านการจราจรให้พร้อมอำนวยการดูแลความสะดวกในจุดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ วัด สถานที่สำคัญทางศาสนา” รอง โฆษก ตร.กล่าว

พ.ต.อ.หญิง ฉันฉาย กล่าวด้วยว่า ผบ.ตร.กำชับข้าราชการตำรวจทุกนายไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด อันมิชอบโดยเด็ดขาด และกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงไปตรวจตรา กำกับ และดูแลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังกำชับ สตม.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอยเอกสารการเดินทาง ผ่านเข้า – ออก ราชอาณาจักร ให้ละเอียดรอบคอบ อย่าให้เกิดความบกพร่อง เฝ้าระวังบุคคลต้องห้าม หรือ แบล็กลิสต์ อย่างเคร่งครัด และให้กองบัญชาการตำรวจปราบปราบยาเสพติดเข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดโดยฉวยโอกาสในห้วงเทศกาลตรุษจีน

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติห่วงใย ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนโปรดระมัดระวังการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ใช้วิธีการแอบอ้างในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการแอบอ้างทางออนไลน์ โดยการส่งลิงก์ หรือข้อความ SMS หลอกลวงว่ารับโชคใหญ่ ได้รับอั่งเปา หรือของขวัญ ขออย่าเชื่อ อย่ากดลิงก์ ระวังการแฝงไวรัส หรือแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือแล้วดูดเงินออกจากบัญชี ขณะเดียวกันระมัดระวังในการจุดไฟ ธูป เทียน เผากระดาษเงินกระดาษทอง หลีกเลี่ยงการจุดประทัด ดอกไม้เพลิง ในลักษณะที่อาจก่ออันตรายและสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น ทั้งนี้ หากต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ สามารถแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง หรือโทรศัพท์สายด่วน 191 และ 1599 หากถูกหลอกลวงทางออนไลน์ โทร.1441เพื่อระงับ อายัดเงิน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งความออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.go.th. -412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”