ผบ.ตร.ยันยังล่า “เสี่ยแป้ง” ต่อ ชี้โควตาสอบนายสิบช่วยประหยัดงบฯ

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” ผบ.ตร. สั่งทีมเร่งประสาน “เสี่ยแป้ง” ให้มอบตัวหลังปีใหม่ ยันไม่ทิ้ง พร้อมมอบทีมโฆษก ตร.ชี้แจงความคืบหน้า ชี้เปิดสอบนายสิบจากทหารเกณฑ์ปลดประจำการช่วยประหยัดงบ-เวลา มีพื้นฐานแล้วใช้เวลาฝึกน้อย


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่ทิ้ง สั่งเร่งติดตามตัวนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ทองด้วง ส่วนหลังศาลจังหวัดพัทลุงพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต พร้อมพวกรวม 5 คน ในคดีร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเมื่อปี 2562 จะทำให้การติดตามตัวยากหรือไม่นั้น ได้มอบหมายให้ทีมงานเร่งประสานเพื่อหาเบาะแสจุดที่อยู่ที่แน่ชัดและประสานให้เข้ามอบตัวหลังปีใหม่ หากมีความคืบหน้าก็จะมอบหมายให้ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงความคืบหน้ากับสื่อมวลชน โดยอยู่ระหว่างการวางแนวทางเรื่องการให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยตนเองเข้าใจอาชีพของสื่อมวลชนและย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เงียบแน่นอน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีเอกสารบันทึกข้อความด่วนที่สุด ที่ กห.0461.17/3048 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณาสัดส่วนนักเรียนนายสิบตำรวจจากทหารกองประจำการ หลังจากปลดจากกองประจำการแล้วว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถือว่ามีความขาดแคลนกำลังพลจำนวนมาก ที่ผ่านมา ตร.ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฝึกกำลังพลต่อคนค่อนข้างมาก ใน 1 คน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการฝึกจนสำเร็จหลักสูตร ในประเด็นดังกล่าว ตร.เคยมีโครงการนี้มาก่อนแล้ว ในส่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ตร.รับทหารเกณฑ์ปลดประจำการเข้าไปปฏิบัติการ แต่ทั้งนี้การจะรับกำลังพลเข้ามาได้ กำลังพลเหล่านั้นต้องมีการสอบเข้าก่อนตามระบบเหมือนพลเรือน


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการ เมื่อสมัครและสอบเสร็จแล้ว ผ่านการคัดเลือก ทาง ตร.จะฝึกอบรมเพียง 8 เดือนเท่านั้น ฉะนั้นในเวลา 8 เดือนที่ประหยัดไป ถือว่า ตร.สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งทาง ตร.ถือว่ากองทัพบกเองได้ช่วยคัดกรองคนมาแล้ว ผ่านการฝึกตามหลักสูตรของทหาร ต้องยอมรับว่าในช่วงการแพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา ตร.ไม่ได้เปิดรับนักเรียนนายสิบเลยเพราะฉะนั้นกำลังพลจะหายไป เมื่อคำนวณอัตราส่วนตำรวจต่อประชากรถือว่าไม่สมดุลกัน บางพื้นที่มีตำรวจ 1 นายต่อประชากรถึง 8,000 คน

ขณะที่มีรายงานข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยว่า เดิมทีเรื่องดังกล่าวทางกองทัพบกได้จัดทำไว้แล้วหลังจากที่ ทหารปลดจากกองประจำการและมีความประสงค์ที่จะสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก ทหารเรือ ทหารทหารอากาศ ทางเหล่าทัพจึงมีโควตาให้ทางทหารที่ปลดจากกองประจำการ ได้เข้ามาสอบแข่งขันเป็นโควตาของแต่ละเหล่าทัพ โดยกรณีที่จะสอบเข้านักเรียนนายสิบตำรวจนั้น ทางกองทัพบกได้ไปพูดคุยประสานงานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเบื้องต้นอาจจะได้รับการอนุมัติโควตา จำนวน 1,000 อัตรา ซึ่งในแต่ละปีนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะรับนักเรียนนายสิบจำนวน 5,000 อัตรา. -416-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก