ตรัง 12 พ.ย.-ปฏิบัติการไล่ล่าตัว “แป้ง นาโหนด” ล่าสุด ชุดหนุมานศรีตรังและตำรวจภูธรภาค 9 ฝ่าสายฝนเข้าไปชุมชนบ้านตระ อ.ปะเหลียน เพื่อปิดเส้นทางหลบหนี ขณะที่ บังเขียว ลูกน้องแป้งนาโหนด ยอมเปิดปาก เส้นทางพาเสี่ยแป้งหนี ในป่าบนเทือกเขาบรรทัด
เมื่อช่วงเวลา 08.00 น. ตำรวจชุดหนุมานศรีตรังและตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 15 นาย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางเข้าไปยังชุมชนบ้านตระ อ.ปะเหลียน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาเป็นระยะ เช้าวันนี้ พบน้ำตกโตนตกมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมา แต่โชคดีที่ไม่ได้ท่วมเส้นทางผ่านของเจ้าหน้าที่ ยกเว้นบนเทือกเขาบรรทัดที่มีน้ำไหลผ่านเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ฯ ยังคงตรึงกำลังเข้มทั้ง 4 กองอำนวยการร่วม คือที่หน้าโรงเรียนบ้านหาดเลา อ.ปะเหลียน ที่น้ำตกโตนเต๊ะและน้ำตกโตนตก อ.ปะเหลียนและที่น้ำตกกะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ประกอบกับชาวบ้านตระหลายคน ซึ่งสนิทสนมกับแป้งนาโหนด ใช้เส้นทางขึ้น-ลงฝั่งบ้านตระได้เพียงเส้นทางเดียว เจ้าหน้าที่ฯ ยังคงจับตาเพื่อไม่ให้มีการส่งเสบียงหรือลักลอบนำผู้ต้องหาผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยวันนี้ ยังคงมีชาวบ้านเดินทางออกจากหมู่บ้านตามคำร้องขอจากเจ้าหน้าที่ฯ ที่ขอเวลาแค่ 2 วันคือวันที่ 11-12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อปฎิบัติการปิดล้อมเทือกเขาบรรทัดทุกเส้นทางหลบหนี หลังยังจับกุม “แป้ง นาโหนด” ไม่ได้
ส่วนที่ จังหวัดพัทลุง ได้ปล่อยตำรวจชุดสืบจาก สภ.ต่างๆ รวมทั้งสืบสวนจังหวัด รวม 8 สภ.จำนวน 80 นาย กระจายกำลัง ออกไปตั้งจุดตรวจพื้นที่ตลอดแนวเขิงเขาบรรทัดตั่งแต่พื้นที่ อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอตะโหมด และ อำเภอป่าบอน ตรวจเข้มเส้นทางเข้าออกจากหมู่บ้านที่เชื่อมต่อกับเขตรักษาพันสัตว์ป่าเขาบรรทัด ขณะเดียวกัน มีปล่อยชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตร.ภ.จว.ยะลา ภ.จว.นราธิวาส และ ภ.จว.ปัตตานี รวมทั้งสิ้น 35 นาย ภายใต้การควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของ จากนั้นชุดกำลังดังกล่าว ได้เดินลงเรือหางยาว จำนวน 3 ลำ เพื่อไปขึ้นฝั่งในพื้นที่ป่าไม้ตรงข้ามกับอ่างเก็บน้ำฯ ก่อนจะลงพื้นที่เดินเท้าเข้าเทือกเขาบรรทัดฝั่งจังหวัดพัทลุง ในภารกิจล่าไล่ “แป้ง นาโหนด”
ขณะบังเขียว ลูกน้องเสี่ยแป้ง ที่ตำรวจควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ ที่ทำหน้าที่หาเสบียง โดยตำรวจจับได้ขณะเดินลงจากเขามาหาเสบียงและชื้อเครื่องกระสุนปืนไปให้เสี่ยแป้ง แต่ถูกตำรวจควบคุมตัวได้ก่อน นำทางกลับไปชี้จุดที่แยกกับเสี่ยแป้งครั้งสุดท้าย โดยทีมข่าวได้สอบถามบังเขียวว่าได้เจอกับเสี่ยแป้งวันไหน โดยบังเขียวบอกว่า หลังจากที่เสี่ยแป้งหนีออกจากโรงพยาบาล 5 วัน เสี่ยแป้งมาหาตนเองกับนายปราย (นายภาณุวัตร) โดยมี “นายนกกับนายปริก” เป็นคนนำมาจากบ้านในตระ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ห่างจากที่จุดที่ตนทำเพิงพัก โดยนำฝากไว้ เกือบ 10 วัน หลังจากนั้น นายนกกับนายปริกได้หายไปไม่ติดต่อมา ปล่อยให้ตนกับนายปราย ต้องดูแลโดยตนเป็นคนหาเสบียงลงมาชื้อข้าวสาร ส่วนนายปราย (นายภาณุวัตร) นั้น เป็นคนล่าสัตว์ หาปลาบนภูเขาเพื่อนำมาประกอบอาหาร ซึ่งเสี่ยแป้งนั้นช่วยหาเสบียงในป่าด้วยกัน โดยตนเคยถามเสี่ยแป้งว่าจะหนีไปไหนเสี่ยแป้งบอก อยู่ไปในป่าเรื่อยไร้จุดหมาย
ขณะทีมข่าวสอบถามว่าอาการป่วยเสี่ยแป้งเป็นอย่างไร บังเขียว ระบุ สุขภาพแข็งแรง คล่องแคล่ว ไม่มีอาการป่วย ด้านอาวุธปืนนั้น เสี่ยงแป้งพกปืน 4 กระบอก มีทั้งเอ็ม 16 เอชเค ปืนพกสั้นขนาด 9มม. และอาวุธปืนลูกชองยาว โดยทำเลที่พัก ทำเป็นเพิงเล็กๆ ล้อมด้วยก้อนหินขนาดใหญ่และต้นไม้ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการหลบหนี
บังเขียว เผย นาทีก่อนเกิดเหตุยิงปะทะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปถึงห่างจากจุดเพิงพักขนำที่เสี่ยแป้งพักระยะ เกือบ 200 เมตร ด้วยความที่แป้ง เป็นคนระแวง โดยที่ไม่ได้มีเสียงสุนัขเห่า ได้ตะโกนออก 2 ครั้ง ว่าใครแต่ไม่มีคำตอบ ก่อนเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ แล้ววิ่งถอยหลังห่างออกไป ช่วงจังหวะที่เสี่ยแป้งยิงออกมาเจ้าหน้าที่หลบหาที่กำบัง ก่อนยิงตอบโต้ แต่ฝ่ายเสี่ยแป้งไม่ได้ยิงโต้กลับ คาดวิ่งหลบหนีเข้าป่าลึกไปด้วยภูมิศาสตร์และมีความชำนาญกว่าเจ้าหน้าที่ ก่อนตนได้วิ่งแยกย้ายหนีกลับลงมาเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านล่าง ควบคุมตัวลงจากภูเขาและนั่งเรือกลับมายังบริเวณอ่างเก็บฯ.-สำนักข่าวไทย