กทม. 11 พ.ย.-ดีเอสไอแจ้งข้อหา “ลูกชายอดีตตำรวจ” พัวพันเครือข่ายเว็บพนันยูฟ่า หลังพบเส้นทางการเงินเอี่ยว เงินหมุนเวียนนับพันล้าน โดยเป็นเครือข่ายกลุ่มที่รับ User มาจำหน่ายเปิด URL ย่อยของเครือข่ายยูฟ่า
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการที่ดีเอสไอแถลงข่าวจับกุมนายภาคภูมิ หรือดีดี้ ผู้บริหารการเงินให้เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ UFA ซึ่งเป็นเว็บพนันใหญ่ 1 ใน 3 ของเครือข่ายเว็บพนันไทย ไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และขยายผลพบข้อมูลมีชื่อของ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช ลูกชายอดีตนายตำรวจระดับผู้การฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง ล่าสุด วันนี้เจ้าตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การชี้แจงในภายหลัง
การแจ้งข้อหาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขยายผลหลังพบหลักฐานเชื่อมโยงจาก User ที่เป็นเอเย่นต์รับเปิดเว็บไซต์ในระดับล่างลงมาจากนายภาคภูมิ ซึ่งมี 50 กลุ่ม และ 1 ในนั้นคือ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช โดยดีเอสไอขยายผลจากการพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบัญชีของ นางสาวชบา ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาเกี่ยวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติด และกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นบัญชีนอมินีของเครือข่ายยูฟ่า จำนวน 10 บัญชี มียอดเงินหมุนเวียนนับพันล้านบาท ทั้งนี้ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช เข้ามาแสดงตัวกับพนักงานสอบสวน โดยยังไม่ได้ถูกออกหมายจับ จึงยังไม่มีการควบคุมตัว แต่ดีเอสไอนัดให้เข้ามาชี้แจงในครั้งต่อไป
อธิบดีดีเอสไอยังให้ข้อมูลเพิ่มว่า การขยายผลจากบัญชีม้ากว่า 80 บัญชี ที่นายภาคภูมิบริหารดูแล และจะเห็นว่าในกลุ่มล่างลงมาจะต้องจ่ายค่าเปอร์เซ็นต์ในการใช้ User ยูฟ่า จำนวน 3% ของยอดรายได้แต่ละเดือน ซึ่ง ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช ก็จะอยู่ในกลุ่มนี้ ที่รับ User มาจำหน่าย เปิด URL แล้วมีรายได้เท่าไหร่ ก็หัก 3 เปอร์เซ็นต์ ส่งต่อไปยังกลุ่มบัญชีม้าของเครือข่ายยูฟ่า
ส่วนนายภาคภูมิ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เชื่อว่าเป็นผู้บริหารในระดับบนและเป็นตัวหลักสำคัญ แต่อาจมีคนอื่นที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในระดับเดียวกัน อยู่ระหว่างการขยายผลเนื่องจากพบเส้นทางการเงินบางส่วนมีการโอนออกไปต่างประเทศ จึงเชื่อว่าทรัพย์สินบางส่วนของเครือข่ายนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ขณะที่การดำเนินการส่งหนังสืออายัดเงินบัญชีม้ากว่า 80 บัญชี ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีธนาคารติดต่อกลับมาแล้ว 1 แห่ง ซึ่งมีประมาณ 10 บัญชี มียอดเงินที่อายัดได้ประมาณ 50 ล้านบาท และจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าบุคคลในระดับเอเย่นต์หลายคนหลบหนีแล้ว และบางรายหลบหนีไปต่างประเทศ ตั้งแต่คืนที่นายภาคภูมิ ถูกจับกุม ซึ่งพนักงานสอบสวนจะขออนุมัติหมายจับต่อไป.–สำนักข่าวไทย