DSI เปิดปฏิบัติการขยายผลปราบปรามขบวนการค้าเนื้อหมูเถื่อน

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – DSI เปิดปฏิบัติการขยายผลปราบปรามขบวนการค้าเนื้อหมูเถื่อน พบความเชื่อมโยงหมูเถื่อนในตู้คอนเทนเนอร์กว่า 20 ตู้ ภายในท่าเรือแหลมฉบัง พบมีการเปิดเป็นที่ชำแหละเนื้อหมูกระจายให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ย่านดอนเมือง ล่าสุดพบมูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,150 ล้านบาท


วันนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นอาคารสำนักงานภายในพื้นที่ซอยประชาอุทิศ เขตดอนเมือง 2 จุด โดยจุดแรกเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา 4 ชั้น บริเวณปากซอยวัดเทพนิมิตต์ จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณด้านหน้าแสดงชื่อเป็นป้ายร้านจำหน่ายเนื้อวัว เนื้อสัตว์ และเครื่องในประเภทต่างๆ แช่แข็ง และที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายเบียร์และไวน์ ส่วนที่บริเวณชั้นบนพบเปิดเป็นลักษณะห้องอาหารและสำนักงาน ที่บริเวณด้านหลังสังเกตเห็นว่ามีจุดที่ใช้ในการสไลด์เนื้อสัตว์แช่แข็งและตู้แช่อยู่ภายใน โดยในระหว่างเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบเจ้าของอาคารอยู่ภายในตัวตึกจึงได้ประสานเจ้าของให้มาพบพนักงานสอบสวนของ DSI ภายใน 1 ชั่วโมง

จากนั้นได้ไปตรวจค้นยังจุดที่ 2 ภายในซอยประชาอุทิศ 13 ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา 4 ชั้น ลักษณะเป็นอาคารสำนักงานและมีตู้แช่เย็นเนื้อสัตว์อยู่ที่ด้านหลังอีกจำนวนหนึ่ง พบพนักงานของบริษัทอยู่ภายในจำนวนหนึ่งจึงได้นำกำลังของเจ้าหน้าที่ DSI และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมเข้าไปตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารและเนื้อสัตว์แช่แข็งที่อยู่ภายในตัวอาคารทั้ง 2 แห่งเพื่อนำไปตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังติดตามอยู่หรือไม่


การตรวจค้นในวันนี้เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่มีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูและเนื้อวัวเถื่อนเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 141 ตู้ ซึ่งมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นผู้เข้าแจ้งความร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ก่อนจะมีการร่วมเข้าตรวจสอบกับกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และทาง DSI กับตู้ทั้งหมดที่ตกค้างอยู่บนท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการนำเนื้อสุกรแช่แข็งทั้งหมดไปทำลายที่จังหวัดปราจีนบุรี

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่าบริษัทที่ DSI เข้าตรวจค้นในวันนี้มีความเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 21 ตู้ จากทั้งหมด 141 ตู้ที่ DSI รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งนอกเหนือจากการนำเข้าเนื้อหมูจำนวนดังกล่าวยังพบว่ามีขบวนการแอบลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบังตั้งแต่ปี 2564 อีก รวมแล้วกว่า 2,385 ตู้ หากเฉพาะบริษัทที่เข้าตรวจค้นวันนี้จะมีตู้คอนเทนเนอร์ที่สั่งเข้ามารวมกว่า 100 ตู้ โดยทาง DSI ได้ทำการตรวจสอบย้อนกลับไปยังข้อมูลของตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดแล้ว และจะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมดมาใช้ประกอบในการดำเนินคดีกับ 141 ตู้ด้วย โดยตู้ดังกล่าวมีการสำแดงเท็จเป็นสินค้าแช่แข็งประเภทอื่นแต่ภายในเป็นเนื้อหมูและเนื้อสัตว์เถื่อนที่ลักลอบนำเข้าเข้ามาในพื้นที่ โดยเป็นการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีการให้การพาดพิงมาถึงบริษัทดังกล่าว รวมถึงยังมีการตรวจสอบพยานหลักฐานและเส้นทางการเงินมายังบริษัทแห่งนี้ โดยพบว่ามีการติดต่อสั่งซื้อไปยังบริษัทชิปปิ้งนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวและยังมีการโอนจ่ายเงินค่าขนส่งและค่าสินค้าไปให้กับบริษัทชิปปิ้ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายค้นและหมายจับมาดำเนินการในวันนี้

นอกจากนี้ยังพบว่าเส้นทางการเงิน หลังจากที่บริษัทสั่งซื้อโอนไปยัง shipping แล้วยังได้มีการโอนเงินไปยังเจ้าหน้าที่รัฐอีกส่วนหนึ่งโดยมีการติดต่อขอนำเข้าสำแดงสินค้ากับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหนึ่ง บุคคลเดิมซ้ำ ๆ จนเชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้


ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายสงสัยว่าบริษัทดังกล่าวจะเป็นพื้นที่กระจายเนื้อหมู เนื้อวัวเถื่อนในพื้นที่ดอนเมืองด้วยหรือไม่ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีร้านบุฟเฟ่ต์ ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่างเป็นจำนวนมาก อธิบดี DSI เปิดเผยว่า เรื่องดังข่าวมีความเป็นไปได้ เพราะพบว่าภายในบริเวณจุดตรวจค้นมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการสไลด์เนื้อสัตว์แช่แข็งและพบห้องเย็นอยู่ภายในจุดตรวจค้นทั้ง 2 จุดด้วย นอกจากนี้ยังพบเนื้อหมูต้องสงสัยจำนวน 20 กล่อง รวม 20 กิโลกรัม นำเข้ามาจากประเทศสเปน จึงได้ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์นำกลับไปตรวจสอบว่าเป็นเนื้อหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าหรือมีที่มาจากประเทศใด หรือมีความเชื่อมโยงกับเนื้อหมูเถื่อนภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกอายัดไว้ในท่าเรือแหลมฉบัง 141 ตู้หรือไม่

ทั้งนี้จากการตรวจสอบย้อนกลับที่พบการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนจำนวนมากกว่า 2,300 ตู้ ทำให้กรมศุลกากรสูญเสียการจัดเก็บรายได้จากภาษีอากรตู้ละ 500,000 บาท รวมแล้วมากกว่า 1,150 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายกับขบวนการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง รวมถึงผู้ประกอบการที่รับซื้อเนื้อหมูเถื่อนจากบริษัทต่างๆ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเดียวกันและอาจต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ส่วนการทำลายเนื้อหมูเถื่อน ที่พบภายในท่าเรือแหลมฉบัง จำนวนมากกว่า 100 ตู้ ซึ่งขณะนี้มีการเผาทำลายไปแล้ว 1 ตู้ ฝังกบทำลายไปแล้ว 20 ตู้ จึงเหลือเนื้อหมูที่ต้องทำลายอีกกว่า 120 ตู้ โดยในวันนี้มีกำหนดจะต้องนำเนื้อหมูไปทำลายอีก 30 ตู้ ที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่ทราบข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ว่าชาวบ้านในพื้นที่ต่อต้านการนำเนื้อหมูจำนวนดังกล่าวเข้ามาฝังกลบทำลาย เนื่องจากเกรงเรื่องโรคระบาดและกลิ่นเน่าเหม็นรบกวน ซึ่งทางกรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และพิจารณาเรื่องการฝังกลบทำลายตามขั้นตอน นอกจากนี้ยังยอมรับว่าทาง DSI และคณะกรรมการทำลายเนื้อหมูเถื่อนได้ตั้งเป้าจะทำลายเนื้อหมูทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ แต่หากติดปัญหาดังกล่าวก็เชื่อว่าการฝังกลบทำลายน่าจะไม่ทันตามกรอบเวลาที่มีอยู่ จึงอาจพิจารณาขยายกรอบเวลาการทำลายออกไปเพื่อความสบายใจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]