ช่วยเด็ก 1 ขวบ ถูกพ่อทำร้ายได้แล้ว

กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – ทีมงาน “กัน จอมพลัง” และ สน.หัวหมาก เข้าช่วยเหลือเด็กวัย 1 ขวบ ได้อย่างปลอดภัย หลังแม่เด็กร้องขอให้ช่วยเหลือว่าเด็กถูกพ่อทำร้าย และถ่ายคลิปวิดีโอไว้ เจ้าหน้าที่คุมพ่อของเด็กไป สน.หัวหมาก เพื่อสอบปากคำและรับฟังปัญหา


เมื่อเวลา 11.10 น. กำลังตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก , เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมทีมงานของ กัน จอมพลัง ได้บุกเข้าภายในแคมป์คนงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านหัวหมาก เพื่อเข้าช่วยเหลือ เด็กชายวัย 1 ขวบ ซึ่งพักอาศัยอยู่กับผู้เป็นพ่อภายในแคมป์ดังกล่าว ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปได้แจ้งกับคนเฝ้าแคมป์ที่พักว่าได้รับการร้องเรียนและประสานจากแม่ของเด็กให้เข้าช่วยเหลือบุตรชายวัย 1 ขวบ ซึ่งถูกพ่อคนงานภายในแคมป์ดังกล่าวทำร้าย

ต่อมามีชายอ้างตัวเป็นพี่ชายของพ่อเด็กได้ แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งขอเป็นคนเข้าไปเจรจากับน้องชาย ซึ่งขณะที่พี่ชายไปเปิดประตูเข้าไป กลับไม่พบน้องชายและหลานชายแต่อย่างใด พบเพียงกระเป๋าสตางค์ตกอยู่เท่านั้น คาดน้องชายเห็นตำรวจจึงอุ้มลูกหลบหนีออกไปทางด้านหลังแล้ว


ทางด้านของหัวหน้าคนงานก่อสร้างได้ออกมาให้ผู้สื่อข่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ โดยระบุว่า การเข้าค้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีการประสานล่วงหน้า ไม่มีหมายค้นแต่อย่างใด และมีการนำสื่อมวลชนเข้ามาภายในแคมป์ที่พักเป็นจำนวนมาก เป็นการลิดรอนสิทธิ์ส่วนบุคคล จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจาพูดคุย ถึงเหตุผลที่ต้องเข้ามาโดยไร้หมายค้นตามกระบวนของกฎหมาย ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เร่งด่วน ที่ส่งผลต่อสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน จึงจำเป็นต้องเข้ามา เจตนาหลักคือมานำตัวเด็กออกไปเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะมาจับกุมหรือตรวจค้นแคมป์แห่งนี้แต่อย่างใด ซึ่งทันทีที่หัวหน้าคนงานได้รับการยืนยันจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐเข้าดำเนินการได้เพียงแต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในแคมป์ที่พัก

จากการตรวจสอบสถานที่อย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าพ่อของเด็กยังคงหลบซ่อนอยู่ภายในแคมป์ เพราะกำแพงด้านหลังเป็นกำแพงสูงไม่สามารถที่จะสามารถอุ้มเด็กและหลบหนีไปได้ และหลังจากเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการค้นหาเด็กและพ่อ ก็พบตัวพ่ออุ้มเด็กซ่อนอยู่ภายในตัวอาคาร จึงได้โทรศัพท์คุยกับพ่อของเด็ก และขอให้นำตัวลูกออกมา พร้อมรับฟังปัญหา ซึ่งจากที่เห็นเด็กปลอดภัยดี ซึ่งหลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวพ่อของเด็กวัย 1 ขวบ ไป สน.หัวหมาก เพื่อสอบปากคำรวมถึง นำเด็กชายวัย 1 ขวบ ไปพบประเมินสภาพร่างกายและไปพบมารดา. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ครม.​อนุมัติหลักการ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายกฯ​ เผย​ ครม.​อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กฤษฎีกายันไม่ขวาง​ ไม่ต้องยกร่างใหม่ แต่จะไปปรับคำให้คล้องกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ชี้เกิดเร็วดีเพื่อประโยชน์ประเทศ