ตร.จ่อแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าเพิ่มหนุ่มทำร้ายไรเดอร์

ทำร้ายไรเดอร์

สน.หัวหมาก 30 ม.ค. – ผกก.สน.หัวหมาก เผยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม หลังไรเดอร์แจ้งเอาผิดข้อหาพยายามฆ่า พบอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องทั้ง 5 กระบอก เป็นชื่อผู้ก่อเหตุ 1 กระบอก เร่งหาชื่อผู้ครอบครองที่เหลือ เบื้องต้นไม่พบสารเสพติด ด้านไรเดอร์เผยเอาผิดถึงที่สุด กังวลหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว


พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า ยังไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากยังสอบปากคำไม่เสร็จสิ้น เพราะตำรวจยังคงมีบางประเด็นที่จะต้องสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม และยังอยู่ในอำนาจการควบคุมตัวของตำรวจ 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ ครอบครัวของผู้ต้องหายื่นประกันตัวมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 70,000 บาท ครั้งที่สอง 100,000 บาท ขณะนี้ยังคงแจ้ง 3 ข้อหาเหมือนเดิม คือ ข้อหาทำร้ายผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย, กักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อหาพยายามฆ่า หลังไรเดอร์ผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติม และได้มีการแจ้งข้อหากับคนขับรถของผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่ในชั้นจับกุมคนขับรถให้การปฏิเสธ ส่วนผู้ต้องหาในการสอบปากคำเบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นจับกุม แต่ว่าในชั้นสอบสวนยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหา

พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนทั้ง 5 กระบอก พบว่ามีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทุกกระบอก โดยมีหนึ่งกระบอกที่มีชื่อของผู้ต้องหาเป็นผู้ครอบครอง ผู้ต้องหาเองนั้นก็มีใบอนุญาตที่ถูกต้องแต่มีเพียงแค่ 1 กระบอกเท่านั้น หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะต้องไปตรวจสอบอีก 4 กระบอกว่าใครเป็นผู้ครอบครอง และครอบครองถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นผู้ต้องหาอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต


เมื่อถามว่ามีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ต้องหาแล้วหรือไม่ ผกก.สน.หัวหมาก ระบุว่า ในการก่อเหตุผู้ต้องหาไม่ได้ขับรถ จึงไม่ได้วัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่ขณะเข้าจับกุมพบว่าผู้ต้องหาอยู่ในอาการมึนเมา และจากการสอบปากคำผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าได้ดื่มสุราจริงตั้งแต่ตีห้าของวันที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหา พบว่าเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 4-5 ปีก่อน และตำรวจยังตรวจหาสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหาแต่ไม่พบ

พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า ผู้ต้องหายังให้การไม่ละเอียด เบื้องต้นให้การว่ามีคนขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนที่บริเวณหน้าบ้านหลายวัน ทำให้วันที่เกิดเหตุเข้าใจว่าไรเดอร์คนดังกล่าวคือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนที่หน้าบ้านจึงบันดาลโทสะ และเมาสุราจึงก่อเหตุขึ้น ทั้งนี้ผู้ต้องหานั้นมีความเครียดสะสมมาหลายวันเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโดยประกอบธุรกิจส่วนตัวจึงได้มีการดื่มสุรา แต่ผู้ก่อเหตุให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยการให้เข้าไปตรวจภายในบ้าน ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ อาวุธปืน รวมถึงกล้องวงจรปิดภายในบ้าน

พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า วันนี้ได้มีการเรียกไรเดอร์ผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมประเด็นการส่งพัสดุว่าใครเป็นคนสั่งมาให้มารับออเดอร์ที่บ้านของผู้ต้องหาเพื่อให้คลายข้อสงสัยในทุกประเด็น เบื้องต้นผู้หญิงที่มีการจ้างงานให้กับผู้เสียหายนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นใคร


เมื่อถามว่าผู้หญิงที่เรียกไปรับพัสดุนั้นเป็นบุคคลในบ้านหรือไม่ ผกก.สน.หัวหมาก ระบุว่า ไม่ใช่บุคคลในบ้าน เพราะบ้านหลังดังกล่าวอยู่กันเพียงแค่ 2 คน คือแม่และตัวผู้ต้องหา รวมถึงทราบมาว่าผู้ต้องหานั้นมีการเลิกรากับแฟนสาวไปแล้วหลายปี

ต่อมาเวลา 13.10 น. นายอุทิตย์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย เดินทางที่ สน.หัวหมาก เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม นายอุทิตย์ได้เล่าเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุว่า ได้รับออเดอร์ขณะที่อยู่คอนโดแห่งหนึ่งจึงไปรับออเดอร์ในซอยพระราม 9 ซอย 35 เมื่อไปถึงในซอยดังกล่าว ส่วนตัวไม่ทราบว่าบ้านลูกค้าคือหลังไหนจึงได้โทรไปสอบถามกับลูกค้าเพิ่มเติม โดยทางด้านลูกค้าได้ถามกลับมาว่าบ้านหลังดังกล่าวมีรถยี่ห้ออะไรอยู่บ้าง แต่ขณะที่กำลังอธิบายอยู่นั้นผู้ต้องหาได้ออกจากบ้านมาพอดี ขับรถเลยไปก่อนที่จะขับวนกลับมา ก่อนเข้าไปทำร้ายร่างกายภายในบ้านพัก ตอนแรกผู้ต้องหาถามกับตนว่า “เป็นสายมาสืบหรือเปล่า” ตัวเองจึงปฏิเสธ พร้อมเอาโทรศัพท์มาโชว์กับผู้ต้องหาว่ามารับออเดอร์จริงๆ แต่ผู้ต้องหาไม่รับฟังพร้อมพูดว่า “ รู้ไหมว่ากูเป็นใคร” ก่อนจะนำอาวุธมาข่มขู่ และลากตนเข้าไปในบ้าน โดยหยิบปืนทีละกระบอกมาโชว์ และนำปืนมาทั้งทุบทั้งตีที่ร่างกายของตน พร้อมยิงปืนออกไปที่ประตู 1 นัด ไม่แน่ใจว่าผู้ต้องหาต้องการยิงขู่หรือไม่ แต่ทางตำรวจได้มีการตรวจสอบปืนกระบอกดังกล่าวพบว่ามี ยังมีลูกกระสุนปืนคาอยู่ในลำกล้องปืนอีก 1 นัด ซึ่งตอนที่ผู้ต้องหานำปืนมาจ่อศีรษะตนนั้นไม่รู้ว่าเขายิงมาแล้วแต่ปืนมันด้านหรือไม่ แต่ถ้าในวันที่เกิดเหตุถ้าถูกยิงขึ้นมาจริงๆ ก็คงตายอยู่ในนั้น

นายอุทิตย์ ยังเล่าว่าในระหว่างที่ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายอยู่นั้น ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงปลายสายนั้นก็ยังคงโทรศัพท์อยู่และพยายามขอคุยกับผู้ต้องหาแต่ผู้ต้องหานั้น ไม่คุยพร้อมทำร้ายร่างกายตนต่อ แม้จะพยายามกราบร้องขอชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักทั้งร่างกายแขนซ้ายหักจนผิดรูป ส่งผลทำให้ไม่สามารถทำงานได้ 15 วัน และจะต้องทำการผ่าตัดที่ รพ.ในสังกัด ทำให้ไม่สามารถทำงานได้และขาดรายได้ ทั้งที่มีภาระในการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ถึงแม้จะไม่มีลูกแต่ก็ต้องมีภาระที่ต้องใช้จ่าย ยอมรับว่าเป็นกังวลในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล จึงอยากจะดำเนินคดีในถึงที่สุด แม้ผู้ต้องหา คนขับรถ และผู้หญิงที่เป็นลูกค้า ก็จะไม่ให้อภัยต่อให้ก้มกราบก็ตาม ตนยังได้สอบถามผู้หญิงที่เป็นลูกค้าว่าเรียกตนมาให้ถูกทำร้ายหรือไม่ แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ตอบและตัดสายทิ้งไป นายอุทิตย์ยังบอกอีกว่าขณะที่ผู้หญิงคนดังกล่าวอยู่ในสายตอนที่ตัวเองโดนทำร้ายร่างกายก็พยายามที่จะขอคุยแต่กับผู้ชายผู้ก่อเหตุเพียงอย่างเดียว

นายอุทิตย์ ยืนยันว่า ไม่รู้จักทั้งลูกค้าที่เป็นผู้หญิงและผู้ต้องหารับออเดอร์ที่บ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นการมาครั้งแรก พร้อมบอกว่าอยากให้ทุกคนเห็นภาพกล้องวงจรปิดขณะที่ถูกทำร้ายร่างกาย อยากให้รู้ว่าตอนนั้นตัวเองถูกกระทำอะไรบ้าง จำได้ว่าถูกทำร้ายนานกว่าครึ่งชั่วโมง ส่วนในทางคดีอยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และไม่อยากให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ยอมรับว่าถ้าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวก็จะกังวล เพราะผู้ต้องหาเป็นคนมีฐานะ ส่วนตัวไม่มีอะไรไปสู้ อีกทั้งยังไม่รู้กฎหมายมีเพียงแค่ตำรวจกับสื่อมวลชนที่จะช่วยได้เท่านั้น ในส่วนของค่าเสียหายก็ให้ทางตำรวจเป็นผู้ดำเนินการแทน. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]