กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – “สายไหมต้องรอด” พาผู้เสียหายถูกรุมทำร้ายคาสถานบันเทิง บาดเจ็บสาหัสขาหัก นั่งวีลแชร์ ขึ้นโรงพักร้องเร่งตามคู่กรณีก่อเหตุ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมสายไหมต้องรอด นำนายภูพิพัฒน์ ผู้เสียหาย นั่งวีลแชร์ เข้าพบ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล เพื่อให้เร่งติดตามคนร้าย หลังถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสขาหัก จมูกหัก ฟันหัก กรามร้าว เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน หลังเกิดเหตุคดีไม่มีความคืบหน้า คนร้ายที่ก่อเหตุยังไม่ถูกดำเนินคดี
นายภูพิพัฒน์ กล่าวว่าได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับแฟนสาว ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะเดินตามแฟนมาจากห้องน้ำและมาขอชนแก้วกับตนเองและยังพยายามลวนลามแฟนสาวจนมีเรื่อง จากนั้นกลุ่มการ์ดของทางร้านจึงได้พาออกมาพูดคุยกันที่หน้าร้าน จากนั้นได้แยกย้ายกันไปกลุ่มของผู้เสียหายรออยู่ที่ร้านจนถึงเวลาประมาณ 03.20 น.จึงได้พากันออกจากร้านเพื่อกลับบ้าน เมื่อเดินมาถึงบริเวณซอยร้านท่าช้าง บางกอก มีกลุ่มชายหญิงประมาณ 7-8 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่มีเรื่องกันในร้าน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วชิรพยาบาล ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และหลังจากที่เข้าพบตำรวจวันนี้ก็มั่นใจขึ้นว่าจะได้รับความเป็นธรรมและพร้อมจะเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สนอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วอย่างน้อย 3 คน ส่วนรายละเอียดขอไม่เปิดเผยแเต่อยากให้กลุ่มผู้ก่อเหตุติดต่อเข้ามาพบตำรวจและเจรจาไกล่กลี่ยกับทางผู้เสียหาย ยืนยันว่าตำรวจชนะสงครามมีการกวดขันและส่งสายตรวจสุ่มตรวจสถานบันเทิงตามวงรอบอยู่แล้ว ประกอบกับทำงานร่วมกับการ์ดและหน่วยอื่น ๆ ซึ่งได้กำชับว่าการเข้าถึงเหตุต้องรวดเร็ว
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า หากร้านไหนนักเที่ยวมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวต้องมีการขึ้นบัญชีดำ และแจ้งเตือนไปยังร้านต่าง ๆ ไม่ให้เข้าร้านเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เพราะหากเกิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้ ฝากไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลกวดขัน. -สำนักข่าวไทย