ทำพิธีเรียกขวัญเชิญวิญญาณ “ผกก.เบิ้ม-สารวัตรแบงค์”ที่บ้านกำนันนก

นครปฐม 15 ก.ย. – พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมพระสงฆ์ และข้าราชการตำรวจทางหลวง ซึ่งมีความสนิทสนมทำงานใกล้ชิดกับสารวัตรแบงค์ เข้ามาทำพิธีเรียกขวัญเชิญวิญญาณของสารวัตรแบงค์ และผู้กำกับเบิ้ม ออกจากพื้นที่เกิดเหตุที่บ้านกำนันนก


สำหรับพิธีกรรมเรียกขวัญเชิญวิญญาณ ในวันนี้มีการนำรถสายตรวจตำรวจทางหลวงจำนวน 9 คัน มาจอดเรียงเป็นหน้ากระดาน หน้าประตูทางเข้าบ้านกำนันนก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง พร้อมเปิดไฟกระพริบ เพื่อบ่งบอกดวงวิญญาณของตำรวจทั้ง 2 นาย ว่า ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชาได้นำรถมารับทั้ง 2 นายแล้ว พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป มาประกอบพิธี มาประพรมน้ำมนต์ รถสายตรวจตำรวจทางหลวงทั้ง 9 คัน เพื่อ เป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ ให้กับตำรวจทางหลวง ผู้ใช้รถทุกคัน พร้อมทั้งตั้งอธิษฐานจิตเรียกขวัญเชิญวิญญาณ ตำรวจทั้ง 2 นาย ออกจากบริเวณบ้าน กำนันนก ซึ่งในระหว่างที่กำลังทำพิธีกรรม รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ถึงกับร้องไห้ออกมา ก่อนทำการเคารพ และเปิดเสียงไซเรน ส่งสัญญาณให้ขวัญและดวงวิญญาณของตำรวจทั้ง 2 นาย รับทราบและออกมาจากที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า แม้ว่าสารวัตรแบงค์และผู้กำกับเบิ้ม จะไม่ได้เสียชีวิตในบ้านกำนันนก แต่จุดเริ่มต้นของการสูญเสียตำรวจน้ำดีทั้ง 2 ราย เกิดขึ้นที่บ้านกำนันนก และการสูญเสียตำรวจทั้ง 2 นายไป ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และขวัญกำลังใจของตำรวจทางหลวงเป็นอย่างมาก ดังนั้นการทำพิธีกรรมเรียกขวัญเชิญวิญญาณตำรวจทั้ง 2 นาย เท่ากับเป็นการเรียกขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจทางหลวงกลับมาด้วย


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังบอกอีกว่าในคืนเกิดเหตุเลือดของสารวัตรแบงค์ ได้ติดไปกับตำรวจ 8-9 คน ที่เข้าไปให้การช่วยเหลือ เชื่อว่าเลือดที่ติดไปจะช่วยเหลือตำรวจที่ให้การช่วยเหลือสารวัตรแบงค์ให้รอดพ้นจากข้อกฎหมายต่าง ๆ

ส่วนประเด็นที่ว่ามีการถอดปลั๊กกล้องวงจรปิด 2 ตัวสำคัญ ตั้งแต่ช่วงสายของวันเกิดเหตุนั้นเป็นการวางแผนไว้ก่อนหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ตนเองไม่มีข้อสงสัยอะไรขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนในการหาข้อเท็จจริง โดยตนเองรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ไม่สามารถพูดได้ ส่วนตัวเชื่อไม่ได้วางแผนเพื่อฆ่าสารวัตรแบงค์แน่นอน พร้อมบอก ตนเองเป็นคนไล่สอบปากคำทุกคนที่เกิดเหตุ และได้เข้าพื้นที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงแรกและได้เห็นอะไรบางอย่าง ส่วนคำให้การของตำรวจบางนายที่อาจจะพูดไม่ตรงกันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะพูด และเชื่อว่าในขณะเกิดเหตุตำรวจบางนายมีการพกปืนและไม่พกปืน แต่ที่สังคมสงสัยว่าทำไมตำรวจที่พกปืนถึงไม่ยิงสวนคนร้ายกลับไปนั้น มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณและวุฒิภาวะของแต่ละคน

ส่วนฟางเส้นสุดท้ายที่ก่อเหตุ เป็นคำพูดของสารวัตรแบงค์ที่พูดกับกำนันนกว่า “กำนันสู้ผมไม่ได้” ซึ่งเป็นประโยคหลังจากการดวลเหล้า จากนั้นกำนันนกก็ลุกขึ้น ย้ายไปนั่งโต๊ะจีนอีกฝั่ง ผ่านไปเพีบง 10 นาที จึงเกิดเหตุยิงขึ้น. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น