กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – ผบ.ตร. สั่งโอนสำนวนคดียิงตำรวจทางหลวงให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทำต่อ หลังพบผู้มีอิทธิพลเอี่ยว และพยานหลักฐานค่อนข้างกระจัดกระจาย เตรียมเรียกตำรวจที่อยู่ในงานทั้งหมดมาสอบปากคำ
เวลา 17.00 น. บรรยากาศพิธีพระราชทานน้ำหลวงศพ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหารบางเขน บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีบุคคลใกล้ชิดและคนในครอบครัว เพื่อนสนิท ผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งตำรวจและทหารและคนรู้จักสนิทสนมทุกสาขาอาชีพ ต่างเข้ามาร่วมไว้อาลัยกันอย่างคับคั่ง
ดาบตำรวจ ฐนโรจน์ รัตนสิริสุรสิน ผบ.หมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.หมู่ สทล.1 กก.2 บก.ทล.) ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชน หลังเป็นผู้ขับรถนำขบวน นำศพมาไว้ที่ศาลาสวดศพ ด้วยอาการร้องไห้สะอื้น บอกว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของสารวัตรศิวกรโดยตรง ที่ผ่านมาเพิ่งได้ร่วมงานกันมาเพียง 4 เดือน สารวัตรแบงค์ ถือเป็นผู้บังคับบัญชาสายตรง และเป็นคนดี ดีมาก ๆ ผู้ใต้บังคับบัญชานายใดมีปัญหาจะช่วยเหลือตลอด สารวัตรเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีนอกไม่มีใน ตนการันตีว่าสารวัตรเป็นผู้บังคับบัญชาที่เป็นคนตรงจริง ๆ
หลังจากทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก และเสียใจที่ต้องสูญเสียคนดีๆ ไป ตอนเจอกับสารวัตรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 ที่ผ่านมา เป็นวันที่ตนไปรับรางวัลตำรวจดีเด่น ในวันสถาปนาตำรวจทางหลวง สารวัตรแบงค์ได้มาแสดงความยินดีและได้อวยพรให้ตั้งใจทำงานและเป็นกำลังสำคัญของตำรวจทางหลวง ส่วนเรื่องเหตุการณ์ ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่สามารถตอบได้ แต่ส่วนตัวขอยืนยันว่าสารวัตรเป็นคนดี
ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง ได้อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ มายังศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร โดยมี พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธานในพิธี
ด้านพลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือครอบครัวของสารวัตรศิวกร อย่างเต็มที่ตามสิทธิต่างๆ ที่พึงจะได้รับทั้งครอบครัวและสิทธิส่วนตัว ในเบื้องต้นได้เข้าไปให้กำลังใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งเรื่องการทำใจรวมถึงเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้สารวัตรศิวกรเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการปราบปราม ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าสารวัตรศิวกรเป็นคนตั้งใจทำงานเป็นคนหนุ่มไฟแรงเป็นนักกีฬา มีน้ำใจ ที่ผ่านมาทำคดีใหญ่หลายคดี ถือเป็นการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกองบังคับการตำรวจทางหลวง เนื่องจากเป็นคนทำงานดีและเป็นคนขยันในทุกด้าน บุคลิกส่วนตัวของสารวัตรศิวกรเป็นคนร่าเริงเข้ากับเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาได้ง่าย ทั้งนี้พูดไปเหมือนกับเป็นการชมเชยกัน แต่หากใครที่เคยทำงานด้วยจะสัมผัสได้ ส่วนการพูดมองว่าเป็นคนพูดตรงๆ รู้สึกอะไรก็พูดอย่างนั้นทำงานทำจริง ได้เจอกันในการประชุมคดีต่างๆ ของกองบัญชาการและได้มีการพูดคุยกันตามปกติแต่ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับตารางสังหรณ์ใดๆ
ในส่วนของคดีเบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประสงค์ที่จะนำคดีดังกล่าวโอนมาทำคดีเอง เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและพยานหลักฐานค่อนข้างกระจัดกระจาย ซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบและได้ลงนามในคำสั่งโอนสำนวนคดีดังกล่าวมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว ส่วนจะเป็นการตั้งในรูปแบบของคณะกรรมการร่วมกับในพื้นที่ของภาค 7 ด้วยหรือไม่ต้องอยู่ระหว่างการพิจารณาของทุกฝ่ายก่อนทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน
โดยขณะนี้ทางตำรวจทราบรายชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าไปร่วมงานที่บ้านของผู้ต้องหาแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการเรียกบุคคลที่อยู่ในงานทั้งหมดมาสอบปากคำ ส่วนเหตุว่าบุคคลต่างๆ เหล่านี้ จะเข้าไปร่วมงานเนื่องจากสาเหตุอะไร ในส่วนนี้ต้องรอการสอบปากคำแต่ละคนก่อนว่าเหตุใดจึงไปร่วมงานในวันดังกล่าว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดตำรวจที่อยู่ในงานเป็นจำนวนมากจึงไม่เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุในขณะนั้น เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวน หากบุคคลที่อยู่ในงานคนใดมีความเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ส่วนรายละเอียดต่างๆ เป็นเรื่องในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ .-สำนักข่าวไทย