15 ส.ค. – ตำรวจ ปคบ.ร่วมกับ อย. จับร้านขายยา ไม่มีเภสัช หลังพบใช้เด็ก ม.3-ม.6 มาหยิบยาให้ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังพบการลักลอบขายยาแก้ไอ นำไปใช้ผสม 4×100 จำนวนมาก
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. แถลงผลการระดมกำลังตรวจสอบร้านขายยาทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยสามารถจับกุมเภสัชกรเถื่อนได้ทั้งสิ้น 13 ราย พร้อมของกลาง คือยาที่ไม่ได้มีการขออนุญาตกว่า 156 รายการ โดยที่ผ่านมาตำรวจ ปคบ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการใช้บุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกรจำหน่ายยาในร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมีบางร้านที่มีการจำหน่ายยาที่ไม่ถูกต้อง จึงมีการประสานความร่วมมือไปที่สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้ร่วมตรวจสอบร้านขายยาที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว
เบื้องต้นพบข้อมูลยาที่ไม่ได้มีการขออนุญาต ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาแคปซูลเขียวเหลือง ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่วัยรุ่นมักจะนิยมใช้ในการผสมในเครื่องดื่ม 4×100 จึงเกิดปฏิบัติการตรวจค้นทั้งสิ้น 14 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตลอดช่วงวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค.ที่ผ่านมา
ผลปฏิบัติการตรวจค้นสามารถตรวจยึดยาปลอมได้ทั้งสิ้น 572 ชิ้น ยาที่ไม่มีการขึ้นทะเบียนจำนวน 212 ชิ้น ยาแก้ไอชนิดตามเชื่อม 24,722 ขวด อย่าเขียวเหลืองหรือทรามาดอล จำนวน 4,150 แคปซูล และยาควบคุมพิเศษอีกจำนวน 21 กล่อง จับกุมบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกรไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรม รวมทั้งสิ้น 13 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ที่จบการศึกษาชั้น ม.3 จำนวน 3 ราย, จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 ราย และชั้นปริญญาตรีไม่ตรงสาขา จำนวน 8 ราย มีการดำเนินการแจ้งข้อหาประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ารับจ้างเป็นพนักงานของร้านขายยาโดยปฎิบัติหน้าที่ในร้านขายยาเป็นประจำทุกวันแต่จะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดย บุคคลเหล่านี้ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 12,000 บาทถึง 18,000 บาท
ตำรวจ ปคบ. ยังระบุอีกว่าในส่วนของพฤติการณ์ของกลุ่มร้านขายยานี้เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าจะมีการจดขยายสาขาจำนวนหลายสาขาโดยมีชื่อเจ้าของเพียงบุคคลเดียว เพื่อให้สามารถได้โควตาในส่วนของยาแก้ไอที่มีการจำกัดเอาไว้ให้เพียงร้านละ 300 ขวดต่อเดือน สามารถสั่งซื้อได้จำนวนมากขึ้น โดยกลุ่มยาแก้ไอเหล่านี้จะมีการนำมาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่นำไปใช้ผสมกับเครื่องดื่มที่มีชื่อเรียกว่า 4 × 100 โดยกลุ่มร้านขายยาที่พบว่ามีการกระทำความผิดจะรวมกระจุกกันอยู่ในพื้นที่ ถนนรามคำแหง ย่านหัวมาก และถนนลาดพร้าว เนื่องจากพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มพี่น้องประชาชนภาคใต้ที่มีความชื่นชอบในการดื่มน้ำที่ทำมาจากใบกระท่อมรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นแบบนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กลุ่มร้านขายยาแบบนี้พุ่งเป้า
การดำเนินการเบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาให้กับบุคคลที่ไม่ใช่เภสัชกร และดำเนินการเอาผิดกับร้านขายยาที่ ตรวจพบว่ามียาที่ไม่มีการขึ้นทะเบียน อย่าปลอม ในฐานความผิดไม่จัดทำบัญชียาที่ซื้อและขายตามที่กำหนด, ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฎิบัติหน้าที่, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายยาปลอม ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการอาหารและยาจะมีการเสนอคณะกรรมการยาพักใช้ใบอนุญาตของร้านต่อไป ส่วนตัวเภสัชกรที่มีชื่อปรากฏว่าเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในร้านขายยาดังกล่าวที่พบว่ามีเภสัชกรที่ไม่ถูกต้อง จะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาต 2 ปี และดำเนินการทางคดีอาญาซึ่งเป็นโทษปรับต่อไป. -สำนักข่าวไทย