“กันต์” สีหน้าเรียบเฉย เข้าพบตำรวจ ปคบ.

กทม. 13 ต.ค.-“กันต์ กันตถาวร” พร้อมทนายความ เข้าพบตำรวจ ปคบ. กรณีพัวพันกับบริษัท The iCon Group ตอบสื่อสั้นๆ “ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง” ด้านผู้เสียหายวันนี้ ยอดพุ่ง 200 คน ภายในครึ่งวัน

เมื่อเวลา 09.50 น. นายกันต์ กันตถาวร ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมทนายความ เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. หลังมีส่วนพัวพันกับบริษัท The iCon Group ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) นายกันต์ ออกมาแถลงยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้น และอ้างว่าเป็นเพียงสัญญาจ้าง PR เท่านั้น ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทแต่อย่างใด


ทันทีที่เดินทางมาถึง นายกันต์ มีสีหน้าเรียบเฉย และยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนจะเปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาชี้แจงกับทางตำรวจตามที่ได้บอกไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดและความชัดเจนมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มั่นใจในพยานหลักฐานมากแค่ไหน “กันต์” ระบุว่า “ก็ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง” และผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า จากกรณีที่พบว่า ภรรยาของกันต์ได้มีการชักชวนให้ลงทุนบริษัทดังกล่าวด้วย นายกันต์ ตอบว่า “ถูกว่าตามถูก ผิดว่าตามผิด ส่วนรายละเอียดขอให้กับทางตำรวจก่อน”


หลังจากนั้น “กันต์” ก็ไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนเดินเข้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางไป ทั้งนี้ ในระหว่างที่เดินเข้าอาคาร ทนายความของ “กันต์” ได้พยายามพูดร้องขอให้สื่อมวลชนงดสัมภาษณ์สอบถามใดๆ กับ “กันต์” ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. ได้มารับตัว “กันต์” พร้อมทนายความ ขึ้นไปยัง บก.ปคบ. เพื่อสอบปากคำต่อไป

ส่วนบรรยากาศชั้น 2 ตึกประชาอารักษ์ ตึกรับแจ้งความ มีประชาชนเข้ามาแจ้งความจำนวนมาก พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1.บก.ปคบ. เปิดเผยว่า ในการแจ้งความ สามารถเดินทางมาแจ้งความได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำหรับคนที่สะดวก และสำหรับคนที่ไม่สะดวก สามารถแจ้งความได้ที่โรงพักใกล้บ้าน โดยเอกสารที่ใช้ประกอบในการแจ้งความ จะต้องมีเอกสารบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประชาชน สำเนาการโอนเงิน หลักฐานการแชต และหลักฐานการสมัครสมาชิก ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐานเหล่านี้มาจะเป็นคำให้การเปล่า ไม่มีน้ำหนักและไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งศูนย์รับแจ้งความนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. และจะปิดรับคิวตอน 16.00 น. ซึ่งเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ จำนวน 422 คน ความเสียหายล่าสุด 183 ล้านบาท ส่วนในวันนี้ จนถึงเวลา 12.00 น. มีการรับแจ้งความเข้าในระบบแล้ว 52 คน ซึ่งจากการคาดการณ์ด้วยตาเปล่า วันนี้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 200 คน

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายบางคนได้ติดต่อกับ สภ.ในพื้นที่ แต่ไม่มีการรับแจ้งความ โดยทางพนักงานสอบสวนอ้างว่า “งานเยอะ” ผู้เสียหายจึงต้องเดินทางมาแจ้งความที่ศูนย์บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางด้วยตัวเอง


ในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ท.ปริญญา ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกคำสั่งมาแล้วว่า ให้ทุก สน. และ สภ. รับแจ้งความจากผู้เสียหายทุกเคส หากไม่กระทำตามมีความผิดทางวินัย ซึ่งถ้าผู้เสียหายคนไหนเห็นว่าโรงพักไม่รับแจ้งความ ให้โทรหาตนที่เบอร์ 0812511381 ได้ทันที.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท