ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา “บิ๊กแป๊ะ” คดีจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ 2.1 พันล้าน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา “พล.ต.อ.จักรทิพย์” อดีต ผบ.ตร. พร้อม 3 นายพลตำรวจ คดีจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ 2.1 พันล้าน และยังมีมติชี้มูล “อิทธิพล คุณปลื้ม” ผิดมาตรา 157 ปมออกใบอนุญาตคอนโดฯ ดัง สมัยเป็นนายกเมืองพัทยา ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย


วันที่ 25 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหากับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวก ประกอบด้วย พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในคดีการดำเนินงานโครงการจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ หรือการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วงเงิน 2,100 ล้านบาท

คดีดังกล่าว ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่สอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการ ข้อกล่าวหาโดยสรุปเป็นเรื่องการขยายระยะเวลาการรับมอบสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนคู่สัญญา โดยสัญญาโครงการจัดซื้อไบโอเมทริกซ์ มีกำหนดส่งมอบครุภัณฑ์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในกำหนด 66 วัน แบ่งเป็น 6 งวด ครบกำหนดตามสัญญาในวันที่ 2 พ.ค.62 แต่บริษัทผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าให้ตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.62


ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะทำหนังสือแจ้งข้อกล่าวหากับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ อย่างเป็นทางการ และเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นจะต้องสรุปสำนวนการไต่สวนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ พิจารณาชี้มูลเป็นทางการอีกครั้ง

ฟัน “อิทธิพล” ผิด ม.157 ออกใบอนุญาตคอนโดฯ ดังเมืองพัทยา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และพวก กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 ก.ย.51 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่ประชุม ป.ป.ช. เห็นว่า นายอิทธิพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ซึ่งหลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จะส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย