ตร.ทางหลวง เข้มจับป้ายแดงปลอม ค้างจ่าย M-Flow 351 เที่ยว

กทม. 14 ก.ค.- ตำรวจทางหลวง กวดขันจับกุมป้ายแดงปลอมต่อเนื่อง ครั้งนี้ใช้ป้ายแดงปลอมมากว่า 7 ปี รถวิ่ง 2 แสนกิโล ค้างชำระ M-Flow 351 เที่ยว


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. โดย ร.ต.อ.จรัญ ทองอินทร์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล., ด.ต.ศักดิ์ระพี ตุ้ยดา, ด.ต.พิภพ ศรีคำภา, ด.ต.รุ่งโรจน์ ทรงสนามทิพย์, ส.ต.อ.ภาสกร ตรีภพ, ส.ต.อ.โสนิล จันทร์พลงาม และ ส.ต.อ.ศรัณย์ อู่ทรัพย์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ทองเจือ อายุ 45 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมหรือใช้เอกสารราชการปลอม และ ใช้รถยนต์ที่ยังไม่จดทะเบียน” สถานที่จับกุม ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออก (ทล.พ.9) กม.46 ขาออก มุ่งหน้าบางปะอิน แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากนโยบายของกรมทางหลวง และข้อสั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. ให้ทุกสถานีตำรวจทางหลวง ออกกวดขันจับกุมรถยนต์ที่ใช้ป้ายทะเบียนปลอม สวมป้ายทะเบียน หรือรถที่มีการค้างชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรม ยากในการติดตามผู้ครอบครองหากเกิดอุบัติเหตุ และทำให้กรมทางหลวงสูญเสียรายได้ที่จะนำพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุง ถนน สะพาน ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการจับกุมรถป้ายแดงปลอม รถที่ค้างชำระค่าผ่านทางไปแล้วจำนวนหลายราย โดยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ติดป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ก 9317 กรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในป้ายทะเบียนที่มียอดค้างชำระสูงสุด 20 อันดับแรก ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย


เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการผ่านทางของ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ติดป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ก 9317 กรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจเป็นรถยนต์ที่ใช้ป้ายทะเบียนปลอม (ป้ายแดง) และเป็นรถคันที่มีการค้างชำระค่าผ่านทาง ตามข้อมูลของกรมทางหลวง เพื่อนำมาประกอบการตั้งจุดสกัดในบริเวณต่างๆ ตามเวลาที่คาดว่ารถคันดังกล่าวจะวิ่งผ่าน ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ติดป้ายแดงหมายเลขทะเบียน ก 9317 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีลักษณะตรงกับรูปรถคันที่ปรากฏอยู่ในระบบ และมีการใช้วิ่งบนถนน จึงได้ทำการเรียกเพื่อตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ น.ส.ทองเจือ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบป้ายทะเบียนทางกายภาพพบว่า ป้ายทะเบียนหมายเลข ก 9317 กรุงเทพมหานคร มีปั๊มนูนสัญลักษณ์ ขส แต่ไม่มีลายน้ำเครื่องหมายราชการกรมการขนส่งทางบก และไม่มีเลข 10 หลัก เชื่อได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม จึงได้ทำการตรวจยึดป้ายทะเบียนหมายเลข ก 9317 กรุงเทพมหานคร ไว้เป็นของกลาง หลังจากนั้นได้ทำการตรวจค้นรถยนต์เพื่อหาสิ่งของผิดกฎหมายเพิ่มเติม ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเอกสารสัญญาซื้อขาย ส่งมอบรถ พบว่า รถยนต์คันนี้มีเลขเครื่องยนต์และเลขตัวถังตรงตามสัญญาซื้อขาย โดยมีการส่งมอบรถยนต์ให้ น.ส.ทองเจือ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.2559 ตรวจสอบเลขไมล์ปัจจุบัน รถคันดังกล่าววิ่งไปแล้ว 217,279 กม. โดย น.ส.ทองเจือ ยอมรับว่า ยังไม่ได้นำรถคันดังกล่าวไปจดทะเบียน ส่วนป้ายแดงทะเบียน ช 5505 กรุงเทพมหานคร ได้มาจากบริษัทแห่งหนึ่งหัวหมาก โดยผู้ถูกกล่าวหาไม่ทราบว่าเป็นป้ายปลอมจึงนำมาใช้ในทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมหรือใช้เอกสารราชการปลอม และ ใช้รถยนต์ที่ยังไม่จดทะเบียน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลกรมทางหลวงพบว่า รถคันดังกล่าวได้อยู่ในบัญชีข้อมูลรถที่ผ่านช่องทางการชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-FLOW) แต่ไม่ได้ชำระภายในกำหนด รวมจำนวน 351 เที่ยว อันเป็นความผิดฐานใช้ยานยนตร์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งทางกรมทางหลวงจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ