กทม. 22 มิ.ย.- ตำรวจคุมตัว “บอสตาล” พร้อมพวก ฝากขัง คัดค้านประกันตัว ขณะที่เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยกมือไหว้ขอโทษแฟนบอล
พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ควบคุมนายพงษ์ศิริ หรือ บอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ และนายพัสกร ผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายฯ ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขัง หลังตกเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าเล่นการพนันซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน หลังถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากโทษมีอัตราสูงจึงเกรงว่าอาจหลบหนี
ระหว่างถูกควบคุมตัวขึ้นรถ นายพงษ์ศิริ พูดสั้น ๆ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยกมือกล่าวขอโทษแฟนฟุตบอลสโมสรลำพูน วอริเออร์ ทุกคน ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะชี้แจงอะไรกับสังคมหรือไม่ ก็บอกแค่ว่า “ขอเวลาผมหน่อย” นอกจากนี้ยังถามว่ามีความเป็นห่วงสโมสรหรือไม่ หลังจากที่ถูกจับกุม นายพงษ์ศิริ ก็พยักหน้าแสดงความเป็นห่วง โดยทั้งสองคนเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ ต่างมีสีหน้าที่เคร่งเครียดและก้มหน้าหลบการถ่ายภาพของสื่อมวลชน โดยเฉพาะนายพงษ์ศิริ ที่มีแววตาวิตกกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ด้านทนายความของนายพงษ์ศิริ เปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า สภาพจิตใจของนายพงษ์ศิริ ยังปกติ ตอนนี้ยังไม่มีความเครียด ไม่มีญาติมาเยี่ยมที่ สน. แต่คาดว่าจะไปรอพบที่ศาลอาญา ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัว ยังไม่ได้หารือที่แน่ชัด คาดว่าเตรียมพูดคุยกับทางญาติและยื่นหลักทรัพย์ปล่อยตัวชั่วคราวศาลอาญา
ขณะที่ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ในฐานะหัวหน้าด้านปฏิบัติการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ pct เปิดเผยว่า นายพงษ์ศิริให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานแน่นหนาที่จะเอาผิดได้ อีกทั้งยังได้ประสาน ปปง.เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มเติมเนื่องจากเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์อีกหลายรายการที่อาจได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งต้องใช้อำนาจของ ปปง.ตรวจสอบ อาทิ บ้าน ที่ดิน ตาม ภาคเหนือ เช่น ลำพูน พะเยา เชียงราย รถหรูจำนวนหลายคันที่รวมมูลค่า ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่า มีการลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2560 มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า นายพงษ์ศิริ เกี่ยวข้องเว็บพนันบอล โดยเป็นเจ้าของเว็บรายใหญ่ มีการจัดให้มีการเล่นพนัน โฆษณาชักชวน และฟอกเงิน เนื่องจากพบเส้นทางการเงิน เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหา และเว็บไซต์พนัน
นอกจากนี้ นายพงษ์ศิริเปิดบริษัทต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นพบ 4 บริษัท ที่มีความผิดปกติ โดยประกอบธุรกิจสโมสรฟุตบอล ร้านอาหาร จำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร และการท่องเที่ยว ซึ่งช่วงแรก ผลประกอบการขาดทุน แต่มาภายหลัง ปรากฏว่าได้กำไรอย่างมาก จึงต้องตรวจสอบต่อไปว่า บริษัทที่เปิดนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ เปิดดำเนินกิจการก่อนหรือหลัง ทำเว็บพนันออนไลน์ และพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนันออนไลน์เชื่อมโยงไปถึง บริษัทธุรกิจของนายพงษ์ศิริหรือไม่ ส่วนจะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนสโมสรฟุตบอลสร้างขึ้นจากเงินได้มาโดยผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบ แต่ยังสามารถดำเนินกิจกรรมการแข่นขันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ตำรวจชุด pct 4 จะขยายผลถึงบุคคลใกล้ชิด และเครือญาติของนายพงษ์ศิริที่อาจเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมกระทำความผิด โดยมีชื่อในบัญชีม้า อีกทั้งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ด้วย เพราะตั้งข้อสังเกตว่าทางสโมสรได้ไต่เต้าจากไทยลีก 3 ขึ้นมาถึงไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลาไม่กี่ปี เนื่องจากมีเงินซื้อนักเตะเก่งๆ มาเข้าทีมหลายคน โดยนายพงษ์ศิริซื้อสโมสรมาตั้งแต่ปี 2560 หลังจากเปิดเว็บพนันได้ไม่กี่ปี
สำหรับคดีนี้ ตำรวจสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันได้แล้ว ทั้งหมด 2 คน คือนายพงษ์ศิริ หรือบอสตาล กับพวกอีก 1 คน เป็นลูกน้องของนายพงษ์ศิริ และยังเหลืออีก 1 คน นายดนุพล อยู่ระหว่างหลบหนี คาดว่าน่าจะยังอยู่ในประเทศ ยังไม่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร .-สำนักข่าวไทย