เร่งตรวจสอบคนซื้อไซยาไนด์จากโกดังย่านลาดกระบัง

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – บุกค้นโกดังนำเข้า “ไซยาไนด์” ย่านลาดกระบัง หลังพบเลขผลิตตรงกับขวดไซยาไนด์ที่ “แอม” ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นไม่พบสารดังกล่าว แต่มีข้อมูลว่าขายจริง เร่งตรวจสอบคนซื้อทุกราย หาความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา


เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นโกดังของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ อยู่ในเขตลาดกระบัง เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีแอม หลังได้ข้อมูลจากการเก็บหลักฐานขวดไซยาไนด์ ที่พบในถุงดำที่แอมว่าจ้างให้หลานของนายแด้ นำไปทิ้ง ซึ่งเมื่อตรวจสอบหมายเลขการผลิตข้างขวดไซยาไนด์ดังกล่าว พบว่าตรงกับหมายเลขการผลิตที่บริษัทนี้ได้ทำการจำหน่าย

สำหรับโกดังแห่งนี้ เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ด้านหน้าปิดประตูเหล็กเอาไว้ ส่วนด้านในมีกล่องเก็บผลิตภัณฑ์ต่างๆ จำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น ทางพนักงานที่ดูแลก็ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นด้านใน แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป


พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย คณะทำงานชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสารไซยาไนด์ แต่มีข้อมูลว่ามีการจำหน่ายจริง ซึ่งทางบริษัทให้การว่า บริษัทจะรับสารไซยาไนด์ ต่อมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทีหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้มีการสตอกสินค้า แต่จะต้องให้ผู้ซื้อสั่งสินค้าเข้ามาแล้วจึงจะสั่งจากบริษัทนำเข้ามาแล้วส่งให้ผู้ซื้อทันที

พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยังบอกด้วยว่า สำหรับการซื้อขายสารไซยาไนด์ ในปริมาณไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ไม่ต้องมีใบอนุญาต ซึ่งยอมรับว่า จุดนี้เป็นช่องโหว่ให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครองและซื้อขายสารดังกล่าวได้ โดยหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้ทุกราย เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีของแอม เพราะยังไม่มีข้อมูลว่า แอม ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้โดยตรงหรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าเลขการผลิตตรงกันกับขวดที่เป็นหลักฐานที่พบในคดี

ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของร้านค้า ที่อยู่ติดกับบริษัทดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า บริษัทนี้เปิดมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว เป็นโกดังเก็บสินค้าประเภทสารเคมี และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ตนเองรู้จักกับเจ้าของ แต่ไม่ได้มีการการพูดคุยกันในข้อมูลเชิงลึก และก่อนหน้านี้ โกดังไม่ปิดประตูด้านหน้า แต่ช่วงหลังๆ มีการปิดประตูเพราะมีฝุ่นเยอะ ทางเจ้าของกลัวสินค้าจะเสียหาย โดยมีพนักงาน 3-4 คน คอยดูแลแพ็กสินค้า และจะเปิดโกดังเฉพาะเวลาที่มีลูกค้ามารับของ และจะปิดทันที ซึ่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาตรวจค้นโกดังไปแล้ว ประมาณ 2 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก