“รพี” เตรียมเปิดหลักฐานใหม่คดี “แอม ไซยาไนด์”

กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – “รพี” เตรียมเปิดหลักฐานใหม่ หลังพบบัญชีผู้ตายโยง “แอม ไซยาไนด์” แต่กลับมีการเคลื่อนไหวทางบัญชี ลั่นไม่ขอรับ 50,000 บาท จาก “อัจฉริยะ” หวั่นผิดอุดมการณ์


เวลา 10.30 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำกระเช้า เครื่องดื่มรังนก และเงิน จำนวน 50,000 บาท เป็นรางวัล ให้นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานนำผู้เสียหาย ในคดี “แอม ไซยาไนด์” เข้าร้องทุกข์กับตำรวจ จนทำให้จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า เป็นเงินที่รวบรวมจากแฟนคลับในชมรมและตนเอง ประสงค์มอบเงินเป็นกำลังใจให้บุคคลตัวอย่างที่เก่ง กล้า ไม่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีนายรพีก็ไม่รู้ว่านางแอมไปฆ่าคนอีกจำนวนเท่าไร โดยเงินจำนวน 50,000 บาท ต้องให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนกระเช้ารังนก เพื่อบำรุงร่างกายในการต่อสู้คดี

ขณะที่นายรพี ปฏิเสธไม่ขอรับเงินเนื่องจากกังวลว่าจะผิดอุดมการณ์ ที่เคยประกาศตัวว่าจะอุทิศตัวช่วยเหลือสังคม ประชาชน ที่ไม่ได้รับความถูกต้อง การช่วยเหลือสังคมในวันนี้ตนเองไม่ต้องการเป็นฮีโร่ แต่อยากทำความจริงให้ปรากฏ และความเป็นธรรมจากเกิดขึ้นตามมา โดยนายอัจฉริยะ ยังยืนยันจะนำเงินดังกล่าวให้กับนายรพี หากไม่รับไปส่วนตัว ก็ขอให้นายรพี นำไปมอบให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในคดีแทน แต่นายรพี ก็ยังยืนยันว่าไม่ขอรับเงินสด โดยขอให้นายอัจฉริยะ นำไปมอบให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตเอง


นายรพี ยังกล่าวต่อว่า การมาที่สโมสรตำรวจในวันนี้ เพื่อต้องการพบกับ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดีนางสาวแอม เพื่อสอบถามแทนญาติ ในส่วนคดีของ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาวกาญจนบุรี ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศพ เพราะตอนนี้ศพของน้องก็ยังถูกเก็บรักษาอยู่ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ จะสามารถนำไปบำเพ็ญกุศลได้หรือไม่

และอีกประเด็นที่สำคัญคือในวันนี้ จะเดินทางลงพื้นที่กาญจนบุรี เพื่อไปรับพยานหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นหลักฐานด้านการเงินของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่คาดว่าเป็นรายใหม่ อาจจะเกี่ยวข้องกับคดี “แอม” โดยพบว่า บัญชีที่ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ แม้ว่าเจ้าของบัญชีจะเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อจะนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน

ส่วนกรณีญาติผู้เสียชีวิตรายล่าสุด (น.ส.ทราย) ที่มาให้ข้อมูลกับตำรวจในวันนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตามหาหลานของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีข้อมูลว่าหลานมีเอกสารที่อ้างว่า “แอม” เป็นผู้จัดการมรดกของนางสาวทราย หลังเสียชีวิต ซึ่งอาจได้เบาะแสสำคัญจากหลาน และสามารถคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ทราย ให้ชัดเจนได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่