ดาบตำรวจมือยิง 6 ศพบ้านพ่อตาที่สุราษฎร์ฯ ยังไม่มอบตัว

สุราษฏร์ธานี 17 เม.ย.–ยังไม่มามอบตัว ด.ต.มือยิง 6 ศพ ที่สุราษฏร์ธานี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ย้ำ ด.ต. มือยิงเป็นบุคคลอันตราย หากไม่ใช้ความรุนแรงจะไม่วิสามัญ ส่วนปืนที่นำมาทิ้งพบ M4 เพียงกระบอกเดียว เหลืออีก 2 กระบอก เชื่อว่าปืนพกสั้น ด.ต. พกติดตัวไปด้วย


ความคืบหน้ากรณี ด.ต.อรรถพร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธสงคราม และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพักในสวนปาล์ม หมู่ 8 ต. กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม และมีการยิงต่อสู้กันจนมีผู้เสียชีวิตรวม 6 ศพ เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน จับกุมนายมานพ 1 ในผู้ต้องหาส่งฝากขังเมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 ที่ผ่านมา เหลือเพียง ด.ต.อรรถพรมือยิง ยังไม่เข้ามามอบตัวตามที่ญาติกล้าวอ้าง ทั้งนี้ ญาติยังให้ข้อมูลว่าได้ทิ้งอาวุธปืนในคลองพุมดวง อ.คีรีรัฐนิคม ซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมกับเขื่อนรัชชประภา ตำรวจจึงระดมกำลังนักประดาน้ำ มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี งมจนพบอาวุธสงคราม M4จำนวน 1 กระบอก บริเวณในคลองท่าน้ำวัดอินทราวาส ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10-15 กิโลเมตร

วันนี้ พล.ต.ต. ณภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผย ขณะนี้คาดว่าคนร้าย ยังคงอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ คือ คีรีรัฐนิคม บ้านตาขุน และพนม มีคนให้การช่วยเหลืออยู่ การสืบสวนข้อมูลพบว่ามีการนำอาวุธปืนมาทิ้ง 2 กระบอก สามารถค้นหาพบอาวุธปืน M4 ของทางราชการ 1 กระบอก อีกกระบอกยังหาไม่พบตอนนี้เชื่อว่า ผู้ต้องหาเหลือปืนพกสั้นที่เบิกจากทางราชการไป 1 กระบอก และปืนส่วนตัว 1 กระบอกที่ยังไม่พบ อย่างไร หาก ด.ต.เข้ามอบตัว เกรงว่าจะถูกวิสามัญ เชื่อว่า ด.ต.อรรถพรเป็นตำรวจอยู่แล้ว หากไม่มีการต่อสู้ หรือ ทำร้ายเจ้าพนักงานไม่ใช้ความรุนแรงจะไม่มีการวิสามัญอยู่แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวอย่างเป็นทางการ


ด้านพระใบฎีกาเฉลิมชัย (วิเชียร) อายุ 53 ปี พระพี่ชาย ด.ต.อรรถพร เปิดใจการที่น้องชายนำปืนไปทิ้ง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตำรวจว่าจะไม่มีการต่อสู้ และไม่มีการสูญเสียอีก ส่วนเข้ามอบตัวเมื่อใด ยังตอบไม่ได้ เชื่อมั่นว่าขณะนี้ได้ผ่านจุดผ่อนคลายมาแล้ว น้องชายจะต้องเข้ามอบตัวในเร็วๆ นี้แน่นอน และเชื่อว่าน้องจะไม่ก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพราะน้องรักชีวิตการเป็นตำรวจมาก ส่วนกรณีการเสียชีวิตของน้องบาส ลูกชายดาบอรรถพร ไม่เชื่อว่าดาบอรรถพรจะยิงลูก เพราะน้องบาสเป็นลูกชายคนเดียว และดาบอรรถพรรักลูกชายคนนี้มาก คิดว่าน่าจะมีผู้อื่น ทำให้น้องบาสเสียชีวิตมากกว่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”