นายกสภาทนาย แนะเรื่องเงินบริจาคของ “ชูวิทย์”

24 มี.ค. – นายกสภาทนายความ ชี้กรณี “ชูวิทย์” นำเงินบริจาคให้โรงพยาบาล ผู้นำมาบริจาครู้ที่มาที่ไปของเงิน ว่าได้มาจากการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินหรือไม่ ถ้าไม่รู้ ก็ขาดเจตนาพิเศษ และหากผู้รับบริจาครับไว้โดยสุจริต โดยไม่รู้แหล่งที่มาของเงิน ผู้รับจึงไม่เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน


นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เจ้าพ่อจอมแฉวงการสีเทา ออกมายอมรับว่า ได้รับเงินจากสารวัตรซัว 6 ล้านบาท ก่อนนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต และโรงพยาบาลศิริราชพยาบาล จนหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวอย่างหนัก ว่าการกระทำ​ของนายชูวิทย์​ เข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ. ฟอกเงินหรือไม่อย่างไร โดยนายวิเชียรระบุว่ากรณีนี้ว่า ไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล​ แต่จะขอพูดในภาพรวม และข้อกฎหมายเท่านั้นว่าในทางอาญา​ “พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ 2542 โดยเฉพาะในมาตรา 5 ได้บัญญัติ​เอาไว้เป็นกรณีพิเศษว่า ต้องกระทำโดยมีเจตนาพิเศษ ๆ นั่นหมายความว่า มีการรับเงินมาหรือมีการโอนเงินไป หรือมีการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เพื่อทำการซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นก่อนหรือขณะกระทำความผิดหรือหลังกระทำความผิด ให้ไม่ต้องรับโทษ​ หรือว่ารับโทษน้อยลง ดังนั้นตามหลักกฎหมาย​ผู้โอนหรือผู้รับโอนต้องมีเจตนาพิเศษ​ ต้องรู้ว่าเงินนั้นมีแหล่งที่มาผิดกฎหมาย เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าเป็นความผิดมูลฐาน​ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน หนึ่งในนั้นคือเงินที่ได้มาจากการพนัน

ดังนั้นคนที่นำเงินมาบริจาคต้องรู้ที่ไปที่มาของเงินว่าเงินนั้นได้มาจากการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินหรือไม่ ถ้าเขาไม่รู้ก็ขาดเจตนา​พิเศษ และการบริจาคให้กับโรงพยาบาล หรือมูลนิธิต่างๆ ผู้รับบริจาคเขารับไว้โดยสุจริต เขาไม่รู้ว่าเงินนั้นได้มาจากการกระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน​ ผู้รับมอบรับโอนจึงไม่เข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ 2542


คำว่าเจตนาพิเศษ​ คือการเอาเงินจากการกระทำ​ผิดกฎหมาย​ไปให้ลูก เมีย ญาติพี่น้อง​ คนใกล้ชิด​ชิด และผู้ให้รู้ว่าแหล่งที่มาของเงินมาจากการกระทำความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง​ต้องสอบสวนสืบสวนให้ได้ความชัดเจนว่าผู้รับหรือผู้ให้ รู้ที่มาของเงินหรือไม่ พูดง่ายๆ คือทางอาญาที่ต้องมีเจตนาพิเศษถึงจะมีความผิดฐาน แต่ในทางแพ่ง แม้ขณะรับเงินรับมาด้วยความไม่รู้แหล่งที่มาของเงิน รับมาด้วยบริสุทธิ์ใจ​และสุจริต​ แต่เมื่อรู้ว่าเงินดังกล่าวมีที่มามิชอบ ต้องคืนเงินให้กับผู้บริจาค หรือ ปปง.ทันที หากไม่คืน ปปง.ก็มีสิทธิ​ดำเนินการตรวจสอบและอายัดเงินได้ตามกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง