กทม. 22 มี.ค.- ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดินแดง กรณีรีดเงินชาวจีน
วันนี้ (22 มีนาคม 2566) เวลา 15.30 น. พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดินแดง ยื่นคำร้องขอฝากขังร้อยตำรวจโทประวิต ผู้ต้องหา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฝ ๖/๒๕๖๖ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ระบุพฤติการณ์ว่า ร้อยตำรวจโทประวิต กับพวกแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกร้องให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน จำนวน 10 ล้านบาทเพื่อไม่ให้ถูกจับ ผู้เสียหายให้ลูกชายโอนเงินให้แล้วร้อยตำรวจโทประวิต กับพวกคืนโทรศัพท์มือถือให้ผู้เสียหายแล้วปล่อยตัว
วันที่ 21 มีนาคม 2566 เวลา 01.00 น. ร้อยตำรวจโทประวิต เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยปรากฏตัวต่อพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 พนักงานสอบสวนขอศาลให้ออกหมายขัง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมา ร้อยตำรวจโทประวิต ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวตนเองระหว่างสอบสวน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดที่ผู้ต้องหาถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อความรู้สึกและศีลธรรมอันดีของประชาชน ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานของตนสร้างโอกาสในการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทำลายความน่าเชื่อถือศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว จึงยังไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ในระหว่างสอบสวน ให้ยกคำร้อง .-สำนักข่าวไทย