ดีเอสไอ 30 ม.ค. – “อัจฉริยะ” ร้องรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ระงับคำสั่งแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งซี 8 หลังพบมีการทุจริต ขบวนการลักข้อสอบออกมาแลกเฉลย ราคา 1.5-2 ล้านบาท พบหนึ่งในนั้นคือ จนท.สนิทกับอธิบดีคนก่อน และเป็นคนทำเอกสารการปล้นที่บ้านเช่านาอูรู
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องขอให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงการทุจริตโกงข้อสอบในการเลื่อนตำแหน่งซี 8 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มีหลักฐานว่าในการสอบตำแหน่งซี 8 ของดีเอสไอ มีขบวนการลักข้อสอบมาขายให้ผู้เข้าสอบ โดยมีการจ่ายเงินราคา ตั้งแต่ 1.5-2 ล้านบาท ส่วนคนที่ไม่จ่ายก็ถูกแกล้งให้สอบตก โดยมีพยานบุคคลที่เป็นผู้จ่ายเงินให้กับขบวนการ จึงขอให้รักษาการอธิบดีดีเอสไอระงับคำสั่งแต่งตั้งที่สอบได้ไว้ก่อน เชื่อว่าจะมีผู้เสียหายออกมาจำนวนมากกว่านี้ โดยเชื่อว่ามีกว่า 80% ของผู้ที่สอบได้ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานคือบุคคลที่ได้รับข้อสอบและมาเฉลยก่อนวันสอบ 2 วัน มาเป็นพยาน รวมทั้งตัวเจ้าหน้าที่ที่แจกข้อสอบก่อน ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นคนสนิทของอธิบดีดีเอสไอคนเก่า เงินทั้งหมดจ่ายผ่านรองอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่าทั้งหมดปรากฏหลักฐานชัดเจนเอาผิดได้ทั้งขบวนการ
โดยพรุ่งนี้จะนำตัวผู้หญิงคนที่จ่ายเงินซื้อข้อสอบ ไปให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สอบปากคำที่สโมสรตำรวจ โดยนายอัจฉริยะ กล่าวอ้างว่า หญิงคนนี้เป็นผู้ที่ทำข้อสอบได้มาเป็นที่หนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสายงานที่เกี่ยวข้อง เป็นคนสนิทอธิบดี และยังมีข้อมูลว่าหญิงคนนี้ เป็นคนทำเอกสารในการปล้นที่บ้านเช่านาอูรูด้วย ซึ่งหญิงคนนี้จะโดนดำเนินคดีเป็นคนแรกในการทุจริตจ่ายเงินซื้อข้อสอบ
ส่วนกรณีที่คนอื่นๆ ที่จ่ายเงินไปแล้วจะกล้าออกมาหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า หลังมีการระงับคำสั่งแต่งตั้ง และมีข้อร้องเรียนเรื่องทุจริต เชื่อว่าจะออกมาเป็นพยานอีกหลายคนเพราะบางคนต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจ่าย ได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังระบุว่ารองอธิบดีที่เป็นคนรับเงิน ปัจจุบันก็ยังอยู่แต่อีกไม่กี่วันก็จะเป็นผู้ต้องหาแล้ว ยังบอกอักษรย่อไม่ได้แต่บอกได้ว่าเป็นตำรวจ
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า วันนี้ที่ตนออกมาเป็นผลจากที่มีการพูดคุยกับ รมว.ยุติธรรม และได้อนุญาตให้ร่วมตรวจสอบในการทุจริตต่างๆ ในดีเอสไอมี 20 กว่าเรื่อง จากนี้ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยตนจะส่งข้อมูลต่อให้คนในดีเอสไอที่เชื่อถือได้เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป โดยเชื่อมั่นในตัวรักษาการอธิบดีดีเอสไอว่าจะช่วยกู้ชื่อเสียงของดีเอสไอกลับคืนมา และเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร. -สำนักข่าวไทย